วางแผนการตลาดออนไลน์ในยุคโควิด

วางแผนการตลาดออนไลน์อย่างไร ให้ธุรกิจไปต่อได้ในยุคโควิด?

จะวางแผนการตลาดออนไลน์อย่างไรในยุคโควิด? ผ่านมาแล้วเกือบ 2 ปี กับยุคที่เศรษฐกิจไทยสามารถพูดได้ว่าตกต่ำครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก แม่ค้าออนไลน์ องค์กร ไปจนถึงบริษัทข้ามชาติ ภาพรวมของการค้าขายทั้งในและนอกประเทศที่ต่างก็ฝืดเคืองด้วยผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ที่มาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาซื้อขายออนไลน์กันมากขึ้น ธุรกิจที่มีหน้าร้านก็เริ่มมีความเสี่ยงที่ต้องปิดจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ธุรกิจที่เคยคิดว่ามั่นคงหรือส่งออกต่างประเทศก็มีปัญหาไปตาม ๆ กัน ในฐานะผู้ประกอบการ คุณควรมีการวางแผนการตลาดออนไลน์ที่เหมาะสม มีการเปลี่ยนกลยุทธ์ไปอย่างสิ้นเชิงเพื่อให้ไปต่อได้ แต่จะทำอย่างไร เมื่อยอดขายลดลง ค่าใช้จ่ายก็ต้องลด?

วันนี้เราขอเชิญคุณลองปรับแผนการตลาดออนไลน์ ด้วยแนวคิดง่าย ๆ เพียง 3 ข้อ ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงทันทีครับ

  1. กำหนดเป้าหมายลูกค้า Targeting
  2. กำหนด Channel ที่เหมาะสมกับลูกค้า
  3. กำหนดการวัดผลที่เหมาะสม
Digital-marketing-agency-in-bangkok-sme-digital-marketing-plan-in-Covid-19-list

กำหนดเป้าหมายลูกค้าตามแผนการตลาดออนไลน์ของคุณ

สำหรับการวางแผนการตลาดออนไลน์ที่ดีนั้น อย่างแรกที่ทุกองค์กรจะนึกถึงเลยก็คือการตั้งทาร์เก็ตลูกค้า หรือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจะขายให้แน่ชัด โดยเราแนะนำให้คุณกำหนดขอบเขตของลูกค้าออกมาให้ชัดเจนที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ หรือแม้แต่อาชีพ สำหรับแต่ละไลน์สินค้าของคุณ

ยิ่งกำหนดกลุ่มลูกค้าได้ละเอียดชัดเจนเท่าไหร่ ยิ่งจะส่งผลอย่างมากเมื่อคุณจะต้องนำมาทำโฆษณาจริง ๆ บน channel ออนไลน์ต่าง ๆ นอกจากนี้ต้องมีจุดแข็ง จุดอ่อนของแบรนด์ที่ชัดเจนเพื่อให้สามารถสื่อสารออกมาได้อย่างน่าสนใจกว่าคู่แข่ง จากนั้นก็เพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเข้าไปไม่ว่าจะเป็นการลด แลก แจก แถมต่าง ๆ ตามความสนใจของกลุ่มลูกค้าที่กำหนดนั้น ๆ ของคุณ บางเจ้าก็ว่าจ้างบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจรให้ช่วย research ข้อมูลและดำเนินการในส่วนนี้เพื่อย่นระยะเวลาและทุนทรัพย์ในการจ้างผู้เชี่ยวชาญเป็นพนักงานในสถานการณ์เช่นนี้

กำหนดช่องทางการขาย (Channel) ที่เหมาะสมกับลูกค้า

ช่องทางการขายแต่ละช่องทางให้ผลไม่เหมือนกัน คุณในฐานะผู้ตัดสินใจควรทราบว่าช่องทางใดให้ผลอย่างไร และกลุ่มคนที่อยู่ในช่องทางนั้น ๆ เป็นกลุ่มคนประเภทใด เช่น กลุ่มคนที่เล่น Instagram มักจะมีกำลังซื้อโดยรวมที่สูงกว่า Facebook ในหมวดอาหารและไลฟ์สไตล์ หรือการใช้ Google Ads จะให้ผลดีเป็นพิเศษในธุรกิจที่ลูกค้าต้องการความเร่งด่วน เช่น ซ่อมรถ เปลี่ยนแบตเตอรี่รถ เนื่องจากลูกค้ากว่า 90% จะค้นหาบน Google ว่ามีธุรกิจใดให้บริการในขณะนั้นบ้าง หรือหากคุณต้องพูดคุยกับลูกค้าเยอะ การทำ Line OA ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าเร่งทำก่อนช่องทางอื่น ๆ

กำหนดการวัดผลที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่ยอดขายอย่างเดียว

ตัวนี้เป็นกับดักของผู้บริหารซึ่งยึดโยงกับยอดขายเป็นหลัก จริงอยู่ที่ยอดขายเป็นเรื่องสำคัญ แต่การทำการตลาดออนไลน์นั้นให้ผลได้มากกว่ามิติเดียว หากคุณเป็นแบรนด์เกิดใหม่ในตลาด เป้าหมายของคุณในการทำโฆษณาบน Google หรือ Social media อาจจะไม่ใช่ยอดขาย แต่ควรจะเป็น Impression share และ Reach ยกตัวอย่างเช่น สินค้าตัวใหม่ของคุณไม่มียอดขายเลยใน 2 เดือนแรก แต่คุณได้รับ impression share สูงถึง 80% ในตลาด นั่นก็แปลได้ว่าคุณประสบความสำเร็จในการยึดพื้นที่ที่ลูกค้าควรเห็นได้แล้ว เพียงแต่ปัญหาอาจจะอยู่ที่สินค้าและความใหม่ของแบรนด์ลูกค้าจึงยังไม่พิจารณาซื้อ

การวัดผลหลัก ๆ มีดังนี้

  • ROI (Return on investment): มีหน่วยเป็นเท่า เช่น ROI = 3 หมายความว่าลงทุนไป 1 บาท ได้เงินกลับคืนมา 3 บาท เป็นต้น จะใช้เพื่อประมาณทุกแคมเปญโดยรวมว่าสร้างรายได้คืนให้ธุรกิจได้หรือไม่ เท่าไหร่
  • Impression share: เป็น metric ที่วัดบน Google Ads ซึ่งบอกได้ว่าเมื่อลูกค้าคนหาเกี่ยวกับธุรกิจคุณ 100 ครั้ง โฆษณาของคุณจะแสดงผลกี่ครั้ง หากมีค่ายิ่งใกล้ 100% ยิ่งเป็นผลดี
  • Reach และ Impression: Reach คือจำนวนคนที่เห็นโพสต์และโฆษณาของคุณ ส่วน Impression คือจำนวน “ครั้ง” ที่เห็น เช่น คน 1 คน เห็น 2 ครั้ง ก็จะนับได้เป็น 1 Reach 2 impression เป็นต้น
  • CTR (Click-through-rate): ลูกค้า 100 คน คลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณกี่คน วัดผลเป็น % เช่น CTR = 5% คือทุก ๆ 100 คน คลิกโฆษณาของคุณ 5 คน
  • Conversion Rate: ลูกค้าทุก ๆ 100 คน แล้วซื้อสินค้า หรือสนใจใช้บริการธุรกิจคุณกี่คน วัดผลเป็น % เช่น 2% 5% เป็นต้น

การวางแผนการตลาดนั้น สำหรับยุคโควิด-19 ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการ จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญ เพื่อที่จะกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ช่องทาง และวัดผลได้ชัดเจน ดังนั้นการหมั่นหาความรู้ และการสังเกตเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ หรือเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น คีย์หลักของการทำแผนการตลาดออนไลน์คือการคิดให้รอบด้าน เพื่อที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ได้มากที่สุด เพราะเพียงแค่การหยุดดูเพียง 1 วินาที ก็สามารถบ่งชี้ถึงคุณภาพของการทำการตลาดได้ ดังนั้นการใช้เงินลงทุนทุกบาท ต้องมีการเน้นเฉพาะช่องทาง ไม่สามารถเลือกลงทุนแบบหว่านแหได้อีกต่อไป

Read More

ภาพถ่ายและ vdo สำคัญบนโซเซียลแค่ไหน?

ภาพถ่ายและวิดีโอระดับมืออาชีพ สำคัญบนโซเซียลมีเดียมากแค่ไหน?

ในกระแสโซเซียลมีเดียในปัจจุบันเรียกได้ว่าฟาดฟันกันด้วย “Content” ที่มีความน่าสนใจทั้งเนื้อหาและวิธีการนำเสนอ ซึ่งดึงดูดลูกค้าเข้ามามากกว่าการโพสต์ปกติที่ทุกคนทำ ดังนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการเพิ่มความน่าสนใจให้กับ Content ของคุณก็คือ ภาพถ่าย หรือ วิดีโอ ที่มีคุณภาพสูง คมชัด จัดวางองค์ประกอบและจัดแสงอย่างมืออาชีพ ที่จะมีส่วนช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้าและโฆษณาของคุณ

หลายคนอาจจะคิดว่าการทำ Content หรือการโพสต์โปรโมทลงบนโซเซียลมีเดีย สักช่องทางหนึ่ง  เพียงแค่โพสต์ข้อความก็สามารถหาลูกค้าหรือทำการตลาดได้แล้ว แต่ในความจริงไม่ใช่เลย เพราะในปัจจุบันที่โซเซียลมีเดียนั้นก็มีการจัดการที่เป็นมืออาชีพมากขึ้นเรื่อย ๆ แบรนด์ใหญ่ ๆ ส่วนมากก็มักมีผู้เชี่ยวชาญมาดูแล จึงทำให้ระดับของคุณภาพทั้งการเขียน ทั้งภาพและวีดีโอนั้นดีขึ้นอย่างมาก ดังนั้น การจะหาลูกค้าหรือดึงความสนใจของลูกค้าในขณะที่เขากำลังเลื่อนนิ้วไปนั้นจึงทำได้ยากมากขึ้น

ทางออกที่จะช่วยเพิ่มยอดความสนใจให้โซเชียลมีเดียของคุณได้ก็ไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่คือการมีภาพถ่ายที่น่าสนใจ และวิดีโอที่กระชับ เข้าใจง่าย สำหรับคนทั่วไปความสนใจต่อภาพหรือวิดีโอนั้นจะมีอยู่ที่ราว ๆ 30 วินาทีเท่านั้น ซึ่งคุณจำเป็นต้องสร้างแรงดึงดูดให้กับลูกค้าให้อยาก take action ไม่ว่าจะซื้อของ เข้าชมเว็บไซต์ ฯลฯ ภายในเวลาไม่กี่วินาที ดังนั้นอย่ามองข้าม การเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ และคุณภาพของการนำเสนออาจจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของสินค้าชิ้นเดียวกันไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจรของเราสามารถช่วยคุณวางแผนและจัดการถ่ายภาพด้วยกล้องที่มีคุณภาพ การเล่นกับสี แสง หรือการคุมโทน รวมทั้งการสื่อสารด้วยภาพอินโฟกราฟิกที่ดูได้ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน หรือจะเป็น Content วิดีโอโปรโมทที่สามารถขายของได้อย่างแนบเนียนโดยที่ไม่ทำให้ลูกค้า รู้สึกว่าอึดอัด หรือรู้สึกว่ากำลังโดยยัดเยียดอยู่ เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้าและแบรนด์ ทำให้แข่งขันได้อย่างเหนือกว่าบนโลกออนไลน์

Digital-marketing-agency-in-bangkok-sme-social-media-post-photo-video
Read More

เขียนคอนเทนต์โซเชียลให้คนแชร์ดีอย่างไร

ทำไมควรเขียนคอนเทนต์ให้คนแชร์มากกว่าขายของ?

ในยุคที่คนเกือบร้อย 100% ใช้โซเซียลมีเดียเป็นหลักนั้น ไม่ว่าการสร้างแบรนด์หรือการตลาดออนไลน์ล้วนจำเป็นต้องคิดถึงแฟลตฟอร์มหลัก ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Line OA, YouTube ฯลฯ และถ้าหากคุณอยากให้ธุรกิจของคุณผ่านไปได้ด้วยดีในยุคโควิด-19 เช่นนี้ สิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจออนไลน์คงหนีไม่พ้นการคิดว่าจะทำอย่างไรให้คอนเทนต์ของเราได้รับความสนใจในวงกว้างผ่านการแชร์ การคอมเมนต์และยอดไลค์เพื่อช่วยให้คนอื่น ๆ ได้เห็นโพสต์ของคุณมากยิ่งขึ้น

พลังของการแชร์

การแชร์บนโซเซียลมีเดียนั้นถือเป็นการพลิกชีวิตให้กับหลายแบรนด์มาแล้ว เพียงแค่คืนเดียวก็สามารถทำให้ธุรกิจของคุณพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าหากพูดถึงตัวอย่างของพลังของการแชร์คงหนีไม่พ้นเรื่องปีโป้บนทวิตเตอร์ เพียงช่วงสั้น ๆ ที่ hashtag ติดอันดับ Top ของประเทศ ยอดขายของปีโป้ก็พุ่งขึ้นสูงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นก็เป็นหนึ่งในหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าการแชร์โซเซียลมีเดียนั้น ถึงจะเพียงแค่กดปุ่ม แต่ก็สามารถพลิกชะตาชีวิตของธุรกิจแบรนด์คุณได้

เขียนคอนเทนต์อย่างไรให้คนแชร์?

การจะเขียนคอนเทนต์ลงบนเพจนั้นควรต้องคำนึงถึงผู้อ่านเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในแบบที่กลุ่มลูกค้าชอบ การเขียนในสไตล์ที่เหมาะกับแบรนด์และลูกค้า รวมถึงการออกแคมเปญเป็นระยะเพื่อรักษาการมีส่วนร่วมบนเพจ (engagement) ไว้ให้อยู่ในระดับสูง การเขียนคอนเทนต์โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้รับการแชร์ต่อกันมากนั้น ควรต้องคิดถึงใจผู้แชร์เป็นหลัก ว่าแชร์แล้วจะได้อะไร? ส่วนมากคอนเทนต์นั้นจะต้องมีประโยชน์ ครบถ้วน และไม่ขายของจนเกินไป ให้ผู้แชร์รู้สึกว่าแชร์แล้วเป็นประโยชน์ต่อทั้งตนเองและเพื่อนบนโลกออนไลน์ของคน ๆ นั้นด้วย

หมวดหมู่ของโพสต์ที่ได้รับความนิยมมักจะเป็นโพสต์ที่ทันเหตุการณ์ โพสต์ในเชิงให้ความรู้ infographic ที่เป็นประโยชน์ หรือแม้แต่โพสต์แคมเปญที่คุณกำหนดว่าเงื่อนไขในการร่วมเล่นต้องแชร์โพสต์นี้ออกไป

รู้อย่างนี้แล้ว เริ่มวิเคราะห์คอนเทนต์ของธุรกิจคุณและแบ่งหมวดหมู่ให้ดี หลายธุรกิจมักเน้นไปที่การนำเสนอสินค้าและบริการ รวมถึงขายของมากจนเกินไปจนลืมนึกถึงผู้รับสาร หากสามารถปรับเปลี่ยนได้จะทำให้โซเชียลมีเดียของคุณมีประสิทธิภาพและได้รับผลตอบรับที่ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน

Digital-marketing-agency-in-bangkok-sme-social-media-sharing-2
Read More

แบรนด์ดิ้งธุรกิจนั้นสำคัญไฉน

แบรนด์ดิ้งธุรกิจนั้นสำคัญไฉนในโลกที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง

การสร้างแบรนด์ดิ้งธุรกิจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกแล้วในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเอกลักษณ์โดยการสร้างชื่อแบรนด์ที่จำง่ายหรือติดหู การสร้างโลโก้ หรือการออกแบบลวดลายเฉพาะตัวที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจ รวมไปถึงการวาง positioning ตัวเองให้แตกต่างจากคู่แข่งในหมวดธุรกิจเดียวกัน

การสร้างแบรนด์ดิ้งธุรกิจจึงเป็นอีกวิธีที่ทรงประสิทธิภาพ ยิ่งคุณสามารถตีความตัวตนของแบรนด์ได้ชัดเจน และสามารถชู value ที่แบรนด์ของคุณมอบให้ลูกค้าได้ดีเท่าไหร่ คุณก็ดูจะสามารถสร้างฐานลูกค้าที่จงรักภักดีกับแบรนด์คุณได้มากเท่านั้น

การสร้างแบรนด์ดิ้งนั้นสามารถเริ่มต้นได้หลายวิธี เช่น การค้นหาตัวตนของแบรนด์ การนำเสนอตัวตนของแบรนด์ด้วย key message บางอย่างที่แตกต่างออกมาในช่องทางต่าง ๆ การใช้สีสันเฉพาะของบริษัท การดูแลลูกค้าที่พิเศษกว่าแบรนด์อื่น ๆ หรือการพัฒนา graphics โดยรวมของแบรนด์ให้มีความทันสมัย มีเอกลักษณ์ และมีความสม่ำเสมอในการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กรในทุกช่องทาง

การสร้างแบรนด์ดิ้งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบริษัท และต่อธุรกิจโดยรวม การสร้างแบรนด์สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนมองบริษัทของคุณ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้คุณสามารถเป็นผู้กำหนดราคาที่สูงกว่าสินค้าคู่แข่งในตลาดได้เนื่องจากแบรนด์ของคุณสามารถสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้

หลายธุรกิจเลือกเริ่มต้นการทำแบรนด์ดิ้งด้วยการออกแบบโลโก้ ที่มีความทันสมัย น่าสนใจ รวมถึงสื่อความหมายถึงจุดเด่นของธุรกิจคุณให้ลูกค้าเข้าใจด้วยการมองเพียงไม่กี่วินาที ธุรกิจต่างๆ สามารถจัดหาโลโก้ที่น่าสนใจได้หลายวิธี โดยตัวเลือกที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ โดยการจ้างนักออกแบบโลโก้อิสระหรือโดยใช้เครื่องมือสร้างโลโก้ DIY เช่น www.logogenie.net หรือโดยการระดมมวลชนผ่านเว็บไซต์ประกวดออกแบบโลโก้

หลังจากออกแบบโลโก้เสร็จสิ้นแล้ว แบรนด์คุณควรเริ่มคิด Tone of Voice และ Persona ซึ่งรวมถึงการสร้างตัวแทนของแบรนด์ขึ้นมา ว่าถ้าแบรนด์ของคุณเป็นคนจริง ๆ สักคน เขาหรือเธอ จะเป็นคนแบบไหน ชอบอะไร มีรสนิยม มีวิธีการพูดอย่างไร แล้วจึงนำมาประยุกต์ใช้กับการสื่อสารของแบรนด์ เพื่อสร้างแบรนด์ดิ้งที่ชัดเจนให้ธุรกิจของคุณต่อไป

Digital-marketing-agency-in-bangkok-sme-logo-Branding-business
Read More

ทำไมธุรกิจคุณควรทำ SEO ?

การทำ SEO ช่วยธุรกิจคุณอย่างไร?

การทำ SEO นั้นสำคัญอย่างไร? เมื่อแบรนด์และธุรกิจจำนวนมากรู้ว่าพวกเขาต้องการ Google SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบน Google แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้เมื่อลูกค้าค้นหา keyword เกี่ยวกับธุรกิจคุณ ก็จะเจอคุณอยู่อันดับแรก ส่งผลให้มีลูกค้ามาเข้าชมเว็บไซต์และนำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นในที่สุด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เริ่มเสียที

ผู้ประกอบการส่วนมากมักจะละเลย SEO เนื่องจากการทำ SEO นั้นต้องใช้ระยะเวลานาน 8-12 เดือนกว่าจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม แม้ว่าเราจะสามารถแสดง progress ให้ดูได้ระหว่างทาง ว่า keyword ที่เราต้องการนั้นมี ranking ที่ดีขึ้น และเว็บไซต์ของลูกค้าก็มีผู้เข้าชมมากขึ้นโดยไม่เสียเงินจริง ผู้บริหารหลายท่านมักจะนิยมเลือกช่องทางที่ต้องเสียค่าโฆษณา แต่เห็นผลเลย ณ วันที่ทำเสียมากกว่า

ทว่าความสำคัญของ SEO นั้นคือการลงทุนในระยะกลาง – ยาว ควบคู่กับการทำโฆษณาในช่องทางอื่นที่เห็นผลทันทีอย่าง Google Ads เพื่อที่ในระยะยาว เราจะสามารถลดค่าโฆษณาในส่วนนี้ลงเนื่องจากเว็บไซต์ของลูกค้าติดอันดับต้น ๆ แล้วในทุกหมวด ทำให้ได้ลูกค้าคุณภาพมาสร้างกำไรอย่างต่อเนื่อง

การทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้การค้นหาบน search engine อย่าง Google, Yahoo, Bing, Baidu, Yandex ฯลฯ นั้นเจอเว็บไซต์คุณขึ้นมาก่อน ไม่ใช่เพียงแค่ต้องมี keyword ที่มีลูกค้าหาจริงในประเทศนั้น ๆ เว็บไซต์ของคุณยังต้องถูกเขียนมาให้ใช้งานบนมือถือได้อย่างดีเยี่ยม โหลดเร็ว ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สามารถทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อปัจจุบัน Google เป็นเจ้าของ Search ทั้งโลกประมาณ 75% ของตลาดการค้นหาโดยรวมการทำ SEO ของ Convert Digital เราจึงอิงกับเกณฑ์ของ Google เป็นหลัก โดยมุ่งเน้นไปที่การทำเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น มี keyword ที่เป็นธรรมชาติ มีบทความที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงกับผู้ค้นหา และยังมีการติดตั้ง goal tracking เพื่อติดตามผลงานแบบ real-time ซึ่งนำมาสู่เว็บไซต์ที่มี ranking ดีและสร้างรายได้ให้ธุรกิจคุณได้อย่างยั่งยืน

Digital-marketing-agency-in-bangkok-sme-Google-SEO-optimization
Read More

ติดหน้าแรกกูเกิลด้วย Google Ads

Google Ads คืออะไร?

ติดหน้าแรกกูเกิลวันนี้ ตอนนี้ ได้ด้วย Google Ads

Google Ads ที่ว่านี้คือการโฆษณาออนไลน์รูปแบบหนึ่งบนแพลตฟอร์มของ Google ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถติดหน้าแรกของ Google ได้ทันทีด้วยการจ่ายเงินเพื่อประมูล keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เมื่อลูกค้าค้นหาสินค้าและบริการด้วย keyword เหล่านั้น ก็มีโอกาสที่โฆษณาของคุณจะขึ้นในตำแหน่งที่ 1-4 ในหน้าแรกของ Google ในตำแหน่งบนสุดของเพจครับ (ตำแหน่งล่างก็มี แต่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ)

กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ 2021

ติดหน้าแรกกูเกิลสำคัญอย่างไร ?

สำคัญขนาดที่ว่าเว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1-3 บนหน้าแรกของ Google ได้รับการมองเห็นและคนคลิกกว่า 80% ของเว็บไซต์ทั้งหมดในหมวดธุรกิจนั้น ๆ นั่นเท่ากับว่าหากคุณไม่ได้อยู่ในตำแหน่งสูงเกือบจะที่สุดบนหน้าแรก คุณก็แทบจะไม่ได้รับ visibility หรือ click เลยเทียบกับเจ้าตลาดเหล่านั้น ซึ่งก็หมายถึงโอกาสในการทำยอดขายและผลกำไรที่มากขึ้นหรือน้อยลงตามสัดส่วนไปด้วย ดังนั้นการที่คุณยังไม่มี SEO ที่แข็งแรงพอที่จะติดหน้าแรกกูเกิลได้ การทำ Google Ads ก็สำคัญมากในการเพิ่มการมองเห็นได้ยอดขายให้คุณในทันที

เมื่อคุณได้ก้าวเข้ามาสู่สมรภูมิการตลาดแห่งโลกดิจิทัล คุณจะพบว่าไม่มีการแบ่งแยกในส่วนของประเทศ ไม่มีการแบ่งแยกเป็นช่วงเวลากลางวันหรือช่วงเวลากลางคืน เพราะลูกค้าของคุณเพียงแค่ต้องการสินค้าและบริการ ในเวลาที่พวกเขาเหล่านั้นพอใจ ดังนั้นการที่คุณจะทำให้เว็บไซต์ที่โฆษณาสินค้าและบริการของคุณอยู่เหนือคู่แข่งในตลาดแห่งโลกดิจิทัลนี้ก็ต้องอาศัยความรวดเร็วและแม่นยำ หนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณถูกค้นพบจากลูกค้าและผู้ที่สนใจได้เร็วเหนือคู่แข่ง ณ ช่วงเวลาที่ลูกค้ากำลังค้นหาในลักษณะนี้ที่ตอบโจทย์ที่สุดก็คงจะเป็น Google Ads ครับ

จะติดหน้าแรกกูเกิลต้องทำอย่างไร

ในการทำ Google Ads ของเรานั้น นอกจากเราจะทำตาม best practice ของ Google และมีการพูดคุยกับ Google Representative ทุกเดือนเพื่อปรับจูนประสิทธิภาพของแคมเปญคุณให้ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ เรายังมีการติดตั้ง Goal Tracking ร่วมกับเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้ทราบได้ว่าการโฆษณาบน Google ของคุณ ลงทุนไปเท่าไหร่ และได้ conversion ซึ่งเป็นยอดขายหรือยอดสั่งซื้อสินค้าและบริการเท่าไหร่ เมื่อเห็นเลขชัดเจนแล้วเจ้าของธุรกิจก็จะสามารถตัดสินใจเพิ่มงบประมาณได้

นอกจากนี้เวลาเรารัน Google Ads ไปอย่างน้อย 1 เดือน เราจะสามารถเรียกข้อมูลคู่แข่งดูได้ ว่ามีเว็บไซต์ไหนที่กำลังซื้อ keyword คำเดียวกับที่คุณซื้ออยู่ และเว็บไซต์แต่ละเว็บมี impression share กี่ % ของทั้งหมด ทำให้คุณสามารถบริหารค่าโฆษณา ลงทุนได้อย่างมั่นใจเพราะมีตัวเลขรองรับ

การวิเคราะห์และประมวลผลของ Google Ads

เมื่อคุณได้ลงทุนโฆษณาบน Google Ads ไปแล้ว นอกจากการดู report ปกติบน platform ของ Google เองอย่าง impression, clicks, click-through-rate (CTR) ฯลฯ เรายังใช้เครื่องมืออื่น ๆ อย่าง Google Analytics, Google Tag Manager เพื่อร่วมกันวัดผลประสิทธิภาพในการโฆษณาให้กับธุรกิจคุณเพิ่มเติม

คุณจะทราบว่า Google Ads ส่งลูกค้ามาที่เว็บไซต์เป็นจำนวนเท่าไหร่ มาอยู่นานแค่ไหน ดูเว็บไซต์กี่หน้า ไปจนถึงกดสั่งซื้อสินค้ากี่ครั้ง ความละเอียดขนาดนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อติดตั้ง conversion tracking โดยละเอียดแล้ว ซึ่งการบริการของเรามีการช่วยเหลือในส่วนนี้ให้คุณด้วยนอกจากจะทำให้เว็บไซต์คุณติดหน้าแรกกูเกิลเพียงอย่างเดียว

digital-marketing-agency-bangkok-SEO-agency-bangkok-man

การบริหารทรัพยากรในโลกดิจิทัล

ในยุคแห่งโลกดิจิทัลคุณจะพบว่ามีทรัพยากรต่าง ๆ ที่คุณต้องใช้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดหรือที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดย่อมสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรให้กับคุณได้ตราบใดที่สิ่งที่คุณลงทุนไปมีผลตอบแทน (ROI) เป็นบวก แต่หลายครั้งการจ้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน Digital marketing ขั้นสูง มักจะมีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 50,000-80,000 บาท/เดือน ดังนั้นการจ้างบริษัทช่วยดูแลการตลาดออนไลน์จะสามารถลดค่าใช้จ่าย และได้ประสิทธิภาพของคนทำงานทั้งทีมซึ่งมากกว่าการจ้างเพียงคนเดียวอีกด้วย ทีมงานทุกท่านของเราจัดเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สามารถการันตีได้จากการมีใบรับรองจาก Google ในด้าน Google Ads Search, Display และ Video จึงมั่นใจได้ว่าทีมงานที่บริษัท Convert คัดสรรมาอยู่ในระดับคุณภาพ สามารถทำแคมเปญให้คุณติดหน้าแรกกูเกิลได้อย่างดีที่สุด พร้อมยังคุยกับ Google ให้คุณทุกเดือนอีกด้วย คุณจึงแทบไม่ต้องกังวลในการลงทุนส่วนนี้เลย นอกจากไม่ต้องกังวลแล้วคุณเองก็นับได้ว่าเป็นผู้ที่มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด

ตอนนี้คุณคงรู้แล้วว่าการใช้ Google Ads เป็นวิธียอดนิยมที่จะช่วยพาเว็บไซต์ของคุณทะยานไต่อันดับได้ในทันที แถมการทดลองก็ไม่ได้ใช้เงินมากมายอะไร เพียงหลักหมื่นต้นก็เห็นแล้วว่าคุ้มค่าสำหรับคุณหรือไม่ แต่คุณก็ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าคุณยังคงมีคู่แข่งทั้งคู่แข่งทางตรงและคู่แข่งทางอ้อมที่ใช้วิธีเดียวกันนี้กับคุณ ดังนั้นการมีทีมที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งที่นำคุณไปสู่เป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย รายชื่อลูกค้าใหม่ หรือจะเป็นการที่ Ads ของคุณโชว์บ่อยครั้งที่สุด คุณก็สามารถเลือกได้ เพราะทีมงานของเราสามารถตั้งค่าการทำ Ads ให้ได้ตามเป้าหมายของคุณในงบประมาณโฆษณาที่ตกลงกันได้ ณ ส่วนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยทั้งการประหยัดค่าใช้จ่ายรวมถึงการประหยัดเวลาอีกด้วย

Read More

การตลาดออนไลน์โรงแรมทำอย่างไร?

การตลาดออนไลน์โรงแรมนั้นเป็นเรื่องที่เจ้าของธุรกิจโรงแรมควรใส่ใจ ยิ่งคุณไม่ใช่โรงแรม chain การที่จะทำให้โรงแรมของคุณเป็นที่รู้จักพร้อมตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการจะมาพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด อีกทั้งการนำเสนอเอกลักษณ์ของโรงแรมคุณอย่างไลฟ์สไตล์ กิจกรรม หรือการทำการตลาดให้เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันนั้นถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของผู้ประกอบการโรงแรม นอกจากจะแข่งขันกับโรงแรมอื่นแล้ว ยังต้องปวดหัวกับการที่โรงแรมของคุณโดน Online Travel Agent (OTA) กินค่าคอมมิชชันจำนวนมหาศาลในแต่ละปีโดยไม่มีทางลดได้เลยหากไม่ทำ direct booking ที่มีประสิทธิภาพพอ

การทำการตลาดออนไลน์ที่มีการวางกลยุทธ์อย่างชัดเจน กำหนดตลาด กลุ่มเป้าหมาย คู่แข่ง รวมถึงงบประมาณที่เหมาะสมในการแข่งขันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้โรงแรมของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่งได้ในระยะยาวและไม่เสียโอกาสให้คู่แข่งที่อาจครอง market share ออนไลน์ในพื้นที่ของคุณอยู่

ด้วยประสบการณ์ทำงานร่วมกับโรงแรม chain และ non-brand ชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ ทีมงานของเราเข้าใจถึงปัญหาและโอกาสของธุรกิจโรงแรมบนโลกออนไลน์เป็นอย่างดี ในบทความนี้เราจึงขอยกตัวอย่างเรื่องราวแห่งความสำเร็จของการทำการตลาดออนไลน์ในธุรกิจโรงแรม ซึ่งประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) บนช่องทางออนไลน์ที่ลูกค้าของเราเคยใช้ให้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เพิ่มรายได้ 2 เท่าแต่ลงทุนน้อยลง 50% จาก Google Ads

บางครั้งการใส่ใจในรายละเอียดเพียงน้อยนิดที่หลาย ๆ ท่านมองข้ามไปในการทำการตลาดออนไลน์โรงแรมก็ช่วยเพิ่มผลกำไรมหาศาลให้กับคุณได้ และนี่ก็เป็นหลักการสำคัญที่เราใช้ในการส่งมอบความสำเร็จด้วยการทำการตลาดออนไลน์ให้แก่โรงแรม Inter Chain ระดับ 5 ดาว luxury ในกรุงเทพฯ จากเดิมที่ทางโรงแรมมีแคมเปญโฆษณา Google Search อยู่แล้วถึง 5 แคมเปญด้วยกันแต่กลับไม่ได้ ROI ที่ดีเท่าที่ควร เมื่อเราเข้ามาช่วยดูแลในส่วนนี้ด้วยการเจาะลึกลงไปในแต่ละแคมเปญ เราจึงพบว่าทางโรงแรมมี Keywords ต่าง ๆ ที่ไม่มีประสิทธิภาพอยู่ค่อนข้างมาก รวมถึงการทำแคมเปญที่ไม่ได้กำหนด Structure ไว้ จึงไม่สามารถทราบได้ว่าคนที่จองห้องจาก Google Ads มาจากประเทศอะไร เนื่องจากในแคมเปญเดียวมีการรวมหลายประเทศเข้าด้วยกัน เราจึงต้องทำการสร้างแคมเปญใหม่ ร่วมกับการเลือกเป้าหมายประเทศและกลุ่มลูกค้าที่ต้องการแยกกันทั้งหมดเพื่อให้วัดผลได้ จึงทำให้เราทำ ROI เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 2 เท่าด้วยงบประมาณเท่าเดิม แถมยังลดค่าใช้จ่ายลงอีกถึง 50% เพราะแคมเปญได้ผ่านการ optimized ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ไม่มี keyword ไร้ประสิทธิภาพที่ทำให้ต้องเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์อีก

digital-marketing-agency-bangkok-sme-hotel-digital-marketing

นอกจากนี้เราก็ยังทำ Display Campaign ยิง banner ออกไปยังเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว (prospecting) และติดตามลูกค้าที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของโรงแรม (retargeting) เพื่อเพิ่มลูกค้าใหม่และเพิ่มยอดจองห้องของลูกค้าที่อาจเข้าชมเว็บไซต์แต่ยังไม่ได้ทำการจอง ดังนั้นงบโฆษณาทุกบาทของทางโรงแรมจึงถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่ม ROI จากการโฆษณาโดยรวมได้เป็นอย่างดี

อยากสร้าง Awareness แต่ก็อยากได้ ROI สูง?

การตลาดออนไลน์ในธุรกิจโรงแรมไม่ได้ต้องการผลลัพธ์ในแง่ของยอดจองห้องพักเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถช่วยในการสร้างแบรนด์เพื่อยกระดับให้กับโรงแรมของคุณให้เป็นที่รู้จัก โดยขอยกตัวอย่างการทำงานของทีมเราร่วมกับ Holiday Inn Resort จังหวัดกระบี่ ที่พวกเราสามารถสร้างแบรนด์โดยเลือกการทำโฆษณาจาก Google Display Ads และแบ่งงบประมาณออกเป็นสองส่วน ในส่วนที่หนึ่งใช้สำหรับ Awareness เพื่อให้โรงแรมของคุณเป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าใหม่ (prospecting) และในส่วนที่สองใช้สำหรับคนที่เคยสนใจและเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของโรงแรม (retargeting) ส่งผลให้รีสอร์ทสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ และมี ROI ที่สูงถึง 7:1 บนช่องทาง Display เมื่อเทียบกับรีสอร์ทอื่นในเครือเดียวกัน นับเป็นผลแห่งความสำเร็จที่สร้างแบรนด์ทำให้โรงแรมเป็นที่รู้จักอีกทั้งเพิ่ม ROI ให้กับโรงแรมของคุณได้อีกด้วย

digital-marketing-agency-bangkok-sme-hotel-digital-marketing-zenith-asq
Best Digital Marketing Agency in Bangkok Project Zenith Sukhumvit Team

การตลาดออนไลน์ของธุรกิจโรงแรมในยุค ASQ และ Hospitel

ประสบการณ์ความสำเร็จที่เราทำร่วมกับโรงแรมซีนิท สุขุมวิท ซึ่งทางโรงแรมได้ทำการตลาดออนไลน์โรงแรมที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ตั้งแต่การทำให้เว็บไซต์ของโรงแรมในช่วง ASQ รวมไปถึงการเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาดทั้งหมด พร้อมร่วมสร้างทีมการตลาด In-house ให้กับโรงแรมอีกด้วย และจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบทำให้รายได้จากการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทางทีมของเราจึงร่วมแก้สถานการณ์ดังกล่าวโดยการสร้าง ASQ Website เพื่อรองรับลูกค้าที่เดินทางจากต่างประเทศและต้องกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งเราสามารถดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมใช้งานภายในระยะเวลาเพียง 2 อาทิตย์เท่านั้น อีกทั้งเรายังได้รับ Leads กว่า 100 ครั้ง ในระยะเวลา 1 เดือน จากการทำโฆษณาบน Google Ads และ Social media ทั้งนี้คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าคุณจะได้ที่ปรึกษาพร้อมร่วมแก้ปัญหาของคุณได้อย่างไม่ต้องกังวล

แม้ว่าในปัจจุบันเราจะหวังว่าจะกลับมาปลดหน้ากากกันได้แบบในภาพอีกครั้ง การตลาดออนไลน์โรงแรมของซีนิทก็ไม่เคยหยุดปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้นในระยะยาวหลังจากวิกฤตนี้

จากตัวอย่างความสำเร็จที่เรากล่าวมาทั้งหมดนั้น จะเห็นได้ว่าไม่มีสูตรสำเร็จใดเหมาะกับการตลาดออนไลน์สำหรับทุกธุรกิจโรงแรม เนื่องจากความเป็นเอกลักษณ์และปัญหาของแต่ละโรงแรมที่แตกต่างกัน ดังนั้นพวกเราจึงพร้อมเป็นที่ปรึกษาที่จะวางแผนและวิเคราะห์ตัวเลขให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวกว่า 10 ปี คุณจึงสามารถไว้วางใจให้เราดูแลส่วนการตลาด เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาพัฒนาในด้านอื่น ๆ ให้ธุรกิจไปสู่จุดหมายได้อย่างยั่งยืน

Read More

บริษัทรับทำโซเซียลมีเดีย

บริษัทรับทำโซเซียลมีเดียดีกว่าการทำกันเองอย่างไร? เมื่อโซเซียลมีเดียถือเป็นช่องทางที่ไม่ว่าใคร ๆ ต่างเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย จนทำให้บทบาทของโซเชียลมีเดียในปัจจุบันสามารถสร้างยอดขายหรือทำให้ทุกธุรกิจเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ได้ กล่าวคือการตลาดออนไลน์บนโซเชียลมีเดียถือเป็นช่องทางแห่งโอกาสที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่าน facebook, Instagram, Line OA ฯลฯ แถมหากมีผู้ที่สนใจในสินค้าและบริการของคุณ ลูกค้าก็สามารถเข้าถึงสินค้า ข้อมูล หรือแม้แต่พูดคุยกับแอดมินของคุณได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันเกือบทุกธุรกิจหันมาทำการตลาดผ่านโซเซียลมีเดียทำให้มีการแข่งขันที่สูงขึ้นมาก การตลาดออนไลน์ของคุณจึงควรมีกลยุทธ์ที่วางแผนมาอย่างดีว่าจะวางแบรนด์แบบไหน โฆษณาอย่างไร ใช้งบเท่าไหร่ คาดหวังผลลัพธ์อะไรได้บ้าง เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณตรงใจกลุ่มลูกค้าและโดดเด่นเหนือคู่แข่ง บางครั้งการที่คุณทำเองนั้นก็จะขาดประสบการณ์รวมถึงการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งที่ทำให้คุณต้องเสียเวลา เสียเงินลงทุนอย่างไม่อาจวัดผลได้ หรือการ structure วิธีทดสอบได้ไม่ดีพอ จนไม่สามารถรู้ได้ว่าควรเพิ่ม ลด หรือหยุดลงทุนดี

ประกอบกับความซับซ้อนของ platform ต่าง ๆ ในปัจจุบัน รวมถึงความขาดประสบการณ์ของบุคลากรในหลาย ๆ ธุรกิจ บริษัทรับทำโซเชียลมีเดียของเราจึงเป็นทางเลือกที่ลูกค้าหลายท่านใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานประจำที่เชี่ยวชาญในด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อมาจ้างทีมงานที่ครบครัน พร้อมประสบการณ์กว่า 10 ปี มาช่วยคุณทำการตลาดออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียและช่องทางอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ วัดผลได้ และใช้เงินในการโฆษณาให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่เดือนแรกที่เริ่มงาน

digital-marketing-agency-bangkok-sme-social-media-tone-of-voice

เพราะเข้าใจธุรกิจ จึงสื่อสารได้ดีกว่า

การทำการตลาดออนไลน์บนโซเชียลมีเดียจำเป็นจะต้องเข้าใจในตัวธุรกิจควบคู่ไปกับความเชี่ยวชาญในการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในบริการของบริษัทรับทำโซเชียลมีเดียของเราจะรวมบริการที่ปรึกษาไว้แล้ว ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ กำหนด KPI ร่วมกับแบรนด์ของคุณ วาง Mood & tone ไปจนกระทั่งการเปรียบเทียบคู่แข่งทั้งคู่แข่งทางตรงและคู่แข่งทางอ้อม ทำให้พวกเราเข้าใจในธุรกิจของคุณไม่ต่างจากการจ้างพนักงานประจำ และยังสามารถสื่อสารจุดเด่นของคุณออกมาบนโลกโซเชียลได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

Tone of Voice ในโซเซียลมีเดีย

Tone of voice คือเสียงของแบรนด์คุณ ซึ่งรวมไปถึงคำที่เลือกใช้ วิธีการพูด ไปจนถึงบุคลิกของแบรนด์ที่สื่อสารออกมาบนโลกออนไลน์ในโซเซียลมีเดีย หรือรูปแบบอื่นใดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะคุณ มีทั้งที่เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้ การกำหนด Tone of voice ถือเป็นการตอกย้ำตัวตนของแบรนด์ หรือแสดงถึงอารมณ์ที่แบรนด์ต้องการสื่อไปสู่กลุ่มลูกค้าที่สนใจในสินค้าและบริการของคุณ อาทิเช่น แบรนด์สินค้าที่เป็นของขวัญที่ใช้มอบให้แก่คนสนิท ควรใช้รูปแบบที่ไม่เป็นทางการ มีภาษาพูดที่ฟังดูเป็นกันเองและอบอุ่น ถ้อยคำและประโยคที่เลือกใช้มีความขี้เล่น ทันสมัย เป็นต้น

digital-marketing-agency-bangkok-sme-social-media-tone-of-voice-2

Mood & Tone ของงานกราฟิคกับการสื่อสารในโซเซียลมีเดีย

Mood & tone ของรูปภาพจัดเป็น First Impression ที่สามารถสร้างความประทับใจหรือเป็นที่จดจำให้กับธุรกิจของคุณได้บนโลกของโซเชียลมีเดีย ดังนั้นการกำหนด Mood & tone ของภาพและแบรนด์จะต้องทำให้ผู้เห็นรับรู้ถึงอารมณ์ของภาพที่คุณต้องการสื่อออกไปได้ ซึ่งพวกเราจะมีการร่วมกำหนด Mood & tone ของงานกราฟิคไปร่วมกันกับคุณ มี mock up ให้ดูเป็นตัวอย่าง เห็นภาพก่อนตัดสินใจ พร้อมช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมกราฟิค in-house ในแบรนด์ของคุณเพื่อให้งานกราฟิคที่สื่อออกมาบนโซเชียลมีเดียออกมาสอดคล้องกับแบรนด์ของคุณอย่างแท้จริง

digital-marketing-agency-bangkok-sme-social-media-targeting

กำหนดกลุ่มเป้าหมายถูกเท่ากับถึงเส้นชัยแล้ว

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการจะสื่อสารผ่านการโฆษณาออกไปได้ตรงกลุ่มย่อมหมายถึงคุณได้เข้าถึงเส้นชัยในครั้งนี้แล้ว เพราะถึงแม้ว่าคุณจะทำภาพกราฟิค วิดีโอ หรือ Content ดีมากเพียงใด แต่ถ้าไม่สามารถทำให้คนกลุ่มที่ชื่นชอบสินค้าและบริการของธุรกิจของคุณเห็นได้ ย่อมไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจคุณ จากประสบการณ์ที่บริษัทรับทำโซเชียลมีเดียของเราได้ทำโฆษณา กำหนดเป้าหมายมาเกือบทุกกลุ่มธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ เราจึงสามารถวางกลยุทธ์ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบสินค้าและบริการธุรกิจของคุณอย่างแม่นยำ มีวิธีการเปรียบเทียบกลุ่มเป้าหมาย วัดผลเป็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน โดยจำแนกกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ดังนี้

  • ถิ่นที่อยู่ ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ
  • ลักษณะนิสัย ความชื่นชอบ อายุ หรืออยู่ในกลุ่มอาชีพใด
  • กลุ่มเป้าหมายที่เคยสนใจและเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณในอดีต (Retargeting)
  • หากลุ่มบุคคลที่ชื่นชอบหรือมีลักษณะคล้าย ๆ กัน (Lookalike Audience) จากการใช้ข้อมูล Database ของลูกค้าเดิมในส่วนอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ หรือกลุ่มที่ชื่นชอบสินค้าของคุณจากการทำโฆษณาก่อนหน้านี้
  • อีกหลากหลายวิธีซึ่งเราใช้ร่วมกันกับวิธีข้างต้น

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกลุ่มจะต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ในการศึกษากลุ่มเป้าหมายและวิธีการทำการตลาดออนไลน์บนโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก แต่คุณสามารถย่นเวลาในการศึกษาด้วยตนเอง พร้อมเรียนรู้ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นด้วยการทำงานและเรียนรู้ไปพร้อมกับเรา

การวัดผลในโซเซียลมีเดีย

เมื่อคุณได้ลงทุนลงแรงไปกับโซเซียลมีเดียแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณจะต้องทำคือการวัดผลออกมาเป็นตัวเลข และการประเมินประสิทธิผลเพื่อวางแผนหรือปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่อไป โดยการวิเคราะห์ในแต่ละธุรกิจอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการทำโฆษณานั้นๆ เช่น

  • Awareness ต้องการทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จัก จะต้องวัดผลจาก People Reached ว่ากลุ่มเป้าหมายเห็นทั้งหมดกี่คน เราสามารถทำให้คนเห็นโพสต์ของธุรกิจคุณได้หลักล้านด้วยเงินเพียงหลักหมื่นเท่านั้น
  • Engagement ใช้วัดจำนวนผู้ที่สนใจในโพสต์หรือสิ่งที่คุณนำเสนอ เพิ่มยอดไลค์ คอมเมนต์ แชร์
  • Website Traffic ใช้วัดจำนวนลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อไปซื้อสินค้าหรือลงทะเบียนสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์คุณอีกที
  • Message ใช้วัดจำนวนลูกค้าที่ติดต่อผ่านช่องทาง Inbox เพจ เพื่อปิดการขายในหน้า inbox ที่คุณสามารถจะแนะนำรายละเอียดสินค้าของคุณ รวมถึงตั้ง automated message ช่วยขายได้อีกด้วย
digital-marketing-agency-bangkok-sme-social-media-kpi

โดยทุกอย่างที่กล่าวมานั้นเราสามารถวัดผลออกเป็นตัวเลขได้ ว่าการใช้เงินของคุณทุกบาท ได้ผลลัพธ์อย่างไร เกิดยอดขายหรือรายได้ให้กับธุรกิจได้หรือไม่ โดยเราจะช่วยวิเคราะห์ผลทุกสิ้นเดือน พร้อมชี้แจงข้อเสนอแนะในการดำเนินแผนธุรกิจในเดือนถัดไป เพื่อให้คุณสร้างผลตอบแทนจากการทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

บริการโซเชียลมีเดียของเราที่มอบให้กับลูกค้าคนพิเศษ

  • การทำ Content 12 โพสต์ต่อเดือน ไม่รวมการทำรูปภาพหรือถ่ายวิดีโอ
  • การทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียพร้อมหากลุ่มเป้าหมายให้ตรงกลุ่มแบบไม่จำกัดแคมเปญ
  • ไม่มีค่า set-up fee หรือ management fee
  • ช่วยวิเคราะห์และเป็นที่ปรึกษาการทำการตลาดออนไลน์ไปร่วมกับคุณ อย่างมืออาชีพจากประสบการณ์ที่มีมานาน
  • ค่าใช้จ่ายที่ลงตัว เริ่มต้นเพียง 35,000 บาทต่อเดือน โดยไม่คิดค่าบริการอื่น ๆ เพิ่มเติม

การจ้างบริษัทการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing Agency) ที่อื่น ๆ นั้น ส่วนใหญ่จะคาดเดาต้นทุนที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจาก

อาจมีค่า set-up fee และ ค่า media spend fee ซึ่งปกติทาง Agency จะคิด Top up ไปอีกถึง 10 – 20% จากงบโฆษณาของแบรนด์ รวมถึงบางแห่งอาจมีราคาเริ่มต้นถึง 50,000 – 120,000 บาทต่อเดือนใน Scope งานแบบเดียวกัน ด้วยความที่เราตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวของผู้ประกอบการ จึงออกแบบแพ็คเกจที่มีความชัดเจน ครบครัน และไม่คิดค่าบริการใด ๆ เพิ่มเติมอีก ทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนการเงินรับการเติบโตได้อย่างง่ายดายกว่าที่ใด

Read More

กลยุทธ์ทำการตลาดออนไลน์ 2021

ทำการตลาดออนไลน์ 2021 สำคัญแค่ไหน

ในการซื้อขายในปัจจุบันนั้น เราต่างก็ต้องยอมรับเลยว่าการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ค่อนข้างแพร่หลาย และยิ่งนับวันก็ยิ่งมีการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น ดังนั้นถ้าเราอยากให้สินค้าหรือแบรนด์ของเราเป็นจุดสนใจ หรือเตะตาลูกค้าท่ามกลางแบรนด์และสินค้านับหมื่นได้ ปัจจัยสำคัญนั้นก็คือการทำการตลาดออนไลน์

digital-marketing-agency-bangkok-sme-digital-trends-meeting-table

ทำไมถึงต้องมีการทำการตลาดออนไลน์?

เพราะลูกค้า โอกาส และคู่แข่งของคุณอยู่บนนั้นครับ ลูกค้าทุกประเภท ทุกธุรกิจ ต่างก็มีตัวตนบนโลกออนไลน์ คำถามที่นักธุรกิจควรถามตัวเองวันนี้คือเราจะเข้าถึงลูกค้าผ่าน channel ใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าการลงทุนที่สุดอย่างไรต่างหาก หากคุณไม่เริ่มเสียแต่วันนี้จะรอให้คู่แข่งเริ่มจนประสบความสำเร็จ การทำธุรกิจตามหลังคู่แข่งอยู่ 2-3 ก้าวเสมอนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่น่าพึงประสงค์เท่าใดนัก

วันนี้ทุกธุรกิจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องทำการตลาดออนไลน์ผ่านสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย Google หรือการมีเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัท เมื่อโลกในยุคปัจจุบันถูกขับเคลื่อนด้วยระบบอินเทอร์เน็ต ผู้คนทั่วไปในสังคมมีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างเปลี่ยนไปจากเดิม โดยจากที่เคยไปเลือกซื้อสินค้าและบริการตามห้างร้านก็เปลี่ยนมาเป็นการสั่งซื้อออนไลน์ หรือ แม้แต่การจองโรงแรม จองที่พัก ผู้คนทั่วไปก็มักจองออนไลน์เช่นกัน ยิ่งในสถานการณ์โควิดที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ด้วยแล้ว ทำให้เทรนด์การสั่งซื้อออนไลน์หรือจองออนไลน์ก็มีเพิ่มมากขึ้นไปอีก ในส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบมัลติฟังก์ชันมากขึ้น จากเดิมที่โทรศัพท์มือถือมีไว้สำหรับโทรเข้าหรือโทรออกเท่านั้น ปัจจุบันก็สามารถเป็นได้ทั้งกล้องถ่ายรูป โน้ตงาน ปฏิทิน และการยังสามารถใช้ชอปปิ้งได้อีกด้วย ส่วนนี้เองทำให้การตลาดออนไลน์เข้ามามีบทบาทในโลกยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับการทำการตลาดออนไลน์ 2021 ที่จะช่วยให้สินค้าของคุณมีคนเห็นมากขึ้น

ทำการตลาดออนไลน์ 2021 ควรเริ่มอย่างไรดี?

ทำการตลาดออนไลน์ 2021 จะเริ่มอย่างไร ปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคดิจิทัลอย่างไร ใช้ช่องทางหลักใด?

สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อผู้คนในสังคมทั้งต่อการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจ สำหรับธุรกิจไหนที่ไม่สามารถปรับตัวได้ก็ต้องปิดกิจการกันไปตาม ๆ กัน แต่สำหรับธุรกิจที่สามารถปรับตัวได้ก็สามารถเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน จนถึงขั้นยอดขายพุ่งทะยาน 100-1,000% ขึ้นไป (ธุรกิจการเงินออนไลน์) ก็มี สำหรับบทความนี้เราจึงขอพาคุณไปพบกับการทำการตลาดออนไลน์ที่อาจเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้การดำเนินธุรกิจสามารถเปิดช่องทางใหม่ ๆ ดึงดูดลูกค้าที่ไม่เคยมี รวมไปถึงต่อสู้อย่างคู่แข่งในตลาดได้อย่างเหนือชั้นจนสร้างโอกาสทำกำไรให้เป็นที่น่าพึงพอใจครับ

เรามาเริ่มจากทราบใจความสำคัญก่อนครับว่าสิ่งที่เราเรียกกันว่า “ทำการตลาดออนไลน์” คือ อะไร

การทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing หรือ Digital Marketing) คือ การวางแผนทำการตลาดหรือการโฆษณาสินค้าและบริษัทของคุณให้เป็นที่รู้จักในงบประมาณที่กำหนด เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจของคุณในด้านที่เลือก เช่น การสร้างยอดขาย การครองส่วนแบ่งตลาด หรือการ rebranding ให้ทุกคนรู้จัก ด้วยการใช้ช่องทางออนไลน์ทุกรูปแบบ

โดยมาก Convert Digital ของเราจะแนะนำให้จัดหมวดหมู่เป็น 3 หมวดหลัก ๆ คือ SEO (Search Engine Optimization)Social Media และ Paid Ads ซึ่งแต่ละหมวดหมู่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงมีแพลตฟอร์มหลายต่อหลายชนิดให้คุณเลือกใช้อีกด้วย อาทิ เช่น ภายใต้ social media ก็รวมไปถึง Facebook, Instagram, Twitter, YouTube เป็นต้น

รูปแบบการทำการตลาดออนไลน์

สำหรับหัวข้อนี้เราขอพาคุณมารู้จักกับตัวอย่างของการทำการตลาดออนไลน์ยอดนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย จนบางครั้งคุณอาจคาดไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่คุณกำลังเห็นหรือสัมผัสอยู่นั้นคือการทำการตลาดออนไลน์ในรูปแบบหนึ่ง เราไปพบกับรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์พร้อม ๆ กันเลย

 

  1. Social Media ส่วนนี้ก็มีทั้ง Facebook, Instagram, LINE หรือ YouTube ซึ่งจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกได้ค่อนข้างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทั้งในและต่างประเทศ ความชอบต่าง ๆ ของลูกค้า ไปจนถึงตำแหน่งหน้าที่การงานได้อย่างละเอียด ทำให้คุณสามารถทดสอบการเปิดตลาดใหม่ ๆ รวมถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่คุณอาจคาดไม่ถึงได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก หากสำเร็จก็จะสร้างกำไรมหาศาลเมื่อเพิ่มเงินโฆษณา หรือหากไม่สำเร็จก็จะทราบว่าไม่สำเร็จเพราะอะไรอีกด้วย ธุรกิจ SME หลายเจ้านิยมใช้ Line OA ติดต่อกับลูกค้าใหม่ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคในไทยที่นิยม add line มากกว่าโทรศัพท์ นอกจากจะแชทกับลูกค้าแล้ว ทางบริษัทเจ้าของธุรกิจจะส่งการโฆษณาสินค้ารวมถึงโปรโมชันลด แลก แจก แถม ต่าง ๆ มายังไลน์ของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับธุรกิจจนกลายเป็นลูกค้าไปในที่สุด

 

  1. SEO (Search Engine Optimization) คือ การวิเคราะห์ปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ติดหน้า 1 บน Google โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินเลย การทำ SEO รวมไปถึงการดูว่าเว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วหรือช้า ใช้ในมือถือได้ดีหรือไม่ รวมถึงเนื้อหาในเว็บไซต์และ ‘keyword’ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณซึ่งควรจะถูกนำไปใช้บนเว็บไซต์อย่างเหมาะสม เมื่อทำสำเร็จ SEO จะนำลูกค้าเข้าเว็บไซต์ของคุณเป็นจำนวนมาก และธุรกิจของคุณจะเป็นที่จดจำเมื่อลูกค้าหาคุณเจอบ่อยกว่าคู่แข่งมาก

 

  1. Google Ads คือ การทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้า 1 บน Google เมื่อมีคนค้นหาคำที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ โดยเป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณา ซึ่งในส่วนนี้คุณอาจจะพบว่าปัจจุบันคู่แข่งของคุณอาจจะกำลังทำแบบนั้นอยู่ (ลอง search ดูตอนนี้!) หากคนพบแล้ว และคุณไม่ทำ Google Ads เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ คุณก็ย่อมจะโดนคู่แข่งแย่งชิงลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย แต่หากไม่มีใครทำ Ads ในหมวดนั้น ๆ เลย คุณอาจจะพบว่าการลงทุนคลิกละ 3 บาท 5 บาท จะทำให้คุณได้ขึ้นเป็นที่ 1 ใน Google วันนี้ และสร้างกำไรจากลูกค้าใหม่ ๆ ได้ทันที

 

จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญในการกำหนดทิศทางและความอยู่รอดของธุรกิจโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดเช่นนี้ ซึ่งหากคุณเริ่มต้นได้เร็วและถูกทางย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จ รวมถึงกอบโกยผลกำไรได้ก่อนคู่แข่ง นอกจากนี้คุณยังจะใช้ข้อมูลลูกค้าจริงในการวิเคราะห์ กำหนดทิศทางและสินค้าของบริษัทได้อีกทางด้วย ดังคำกล่าวที่ว่าในโลกยุคปัจจุบันไม่ใช่ยุคที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กอีกต่อไป แต่เป็นยุคที่ปลาเร็วจะกินปลาช้านั่นเอง

digital-marketing-agency-bangkok-sme-digital-trends-computer
digital-marketing-agency-bangkok-sme-digital-trends-meeting

การทำการตลาดออนไลน์มีข้อดีอย่างไร?

  1. โฆษณาได้ตลอด 24 ชั่วโมง แถมปรับจูนตามความต้องการได้ คุณสามารถทำการตลาดออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะโลกออนไลน์เป็นโลกที่ไม่เคยหลับใหล แม้ว่าตัวคุณเองจะพักผ่อนไปแล้ว การโฆษณาสินค้าต่าง ๆ ของคุณก็ยังคงเกิดขึ้นได้ด้วยการทำการตลาดออนไลน์ ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจที่ไม่เคยหยุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสถานการณ์โควิดในปี 2021 ผู้คนในหลายบริษัทจะได้ WFH การซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ จึงมาในรูปแบบของการซื้อสินค้าออนไลน์กันทั้งสิ้นนอกจากนี้เมื่อคุณได้ทำการโฆษณาไปสักระยะ เราจะมีการเก็บข้อมูลสถิติจากลูกค้าคุณจนทราบได้ว่าช่วงเวลา วัน หรือช่องทางใด ที่ลูกค้าคุณมีแนวโน้มที่จะสั่งซื้อมากที่สุดเพื่อเลือกโฆษณาตามช่วงที่ดีที่สุดได้อีกด้วย
  2. เป็นการตลาดที่ไร้พรมแดนคุณจะเห็นว่าการโฆษณาในรูปแบบเก่า ๆ คุณจะต้องเจาะพื้นที่สำหรับทำการตลาดเท่านั้น อาทิเช่น การทำป้ายบิลบอร์ดเพื่อโฆษณาสินค้าใดสินค้าหนึ่งของคุณ ลูกค้าที่สามารถมองเห็นได้ก็จะต้องเป็นลูกค้าที่ขับรถผ่านหรือผ่านไปตามเส้นที่ป้ายบิลบอร์ดนั้น ๆ ตั้งอยู่ หากคุณติดป้ายบิลบอร์ดที่จังหวัดภูเก็ต ลูกค้าของคุณที่อยู่ในจังหวัดขอนแก่นก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นหรือมีโอกาสเห็นได้น้อยมาก แต่หากคุณทำการตลาดออนไลน์ไม่ว่าลูกค้าของคุณอยู่ที่ใดก็จะสามารถเห็นการโฆษณาสินค้าของคุณได้อย่างแน่นอน เพียงแต่คุณต้องเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมเท่านั้นเอง นอกจากนี้การใช้งบโฆษณาเพื่อลูกค้าต่างประเทศ ถ้าเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายกว่าการทำโฆษณาในประเทศไทย เริ่มต้นเพียงหลักพันเท่านั้น ทำการตลาดออนไลน์ 2021 นั้นไม่ได้แพงแต่อย่างใด 
  3. ลงทุนต่ำ ผลตอบแทนสูงการตลาดออนไลน์เป็นการตลาดที่ลงทุนในปริมาณที่ต่ำหากเทียบการทำการตลาดในรูปแบบอื่น ๆ อย่างการเช่าชั่วโมงช่องดังเพื่อโฆษณาสินค้าของคุณซึ่งเริ่มต้นคุณอาจต้องจ่ายหลักล้าน หรือการเช่าป้ายบิลบอร์ดต่าง ๆ ที่อาจจ่ายหลักแสน แต่เมื่อคุณหันมาทำการตลาดออนไลน์และคุณสามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อได้ โดยผลตอบแทนที่ได้ก็สูงเกินกว่าเม็ดเงินที่ลงทุนไปมาก (ลูกค้ารีสอร์ทของเราได้ ROI มากถึง 280 เท่าจาก Facebook) ทำให้การทำการตลาดออนไลน์ช่วยให้หลาย ๆ ธุรกิจยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิดก็ตาม 
  4. สามารถวัดผลได้เป็นตัวเลขชัดเจน ในส่วนนี้เมื่อเปรียบเทียบกับการที่คุณทำการตลาดโดยทั่ว ๆ ไปอย่างการแจกใบปลิวคุณก็ต้องเก็บผลสอบถามทางลูกค้าว่าทราบข่าว ทราบช่องทางมาจากไหน ซึ่งต้องอาศัยการเก็บข้อมูลและการทำไปวิเคราะห์ ซึ่งคุณก็ต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่หากคุณทำการตลาดออนไลน์คุณก็จะสามารถทราบผลได้เลยเป็นตัวเลขชัดเจน สามารถเรียกดูได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเก็บข้อมูลหรือวิเคราะห์เองทำให้คุณสามารถประหยัดทรัพยากรและการลงทุนในส่วนนี้ไปได้ อาทิเช่น ระบบ Analytics ข้อมูลของ Google Ads ซึ่งจะบอกคุณได้ว่าลูกค้าที่เข้าเว็บไซต์ของคุณมาจากช่องทางไหน มีจำนวนกี่คน อยู่บนเว็บไซต์กี่นาที มาจากประเทศไหนบ้าง และลูกค้าเหล่านั้นกดปุ่ม add line หรือซื้อของเป็นจำนวนเท่าไหร่ ทั้งหมดนี้คุณเรียกดูได้ทั้งหมด ความสะดวกนี้เองจะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงทีเพื่อตอบสนองลูกค้าและจับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงขายสินค้าของคุณให้ได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย 
  5. ตอบสนองลูกค้าได้มากกว่า 1 ในเวลาเดียวกันการตลาดออนไลน์จะทำให้คุณและธุรกิจของคุณสามารถดูแลและตอบสนองต่อลูกค้าคนสำคัญของคุณได้มากกว่า 1 คนในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การนำ AI มาเป็น Chatbot ช่วยให้คุณมีตัวแทนตอบข้อซักถามต่าง ๆ ของลูกค้าได้ แต่หากคำถามนั้น ๆ เกินขอบข่ายที่ทาง Chatbot จะตอบได้ เหล่า Chatbot ก็จะส่งต่อคำถามมายังคุณ เมื่อคุณได้ให้คำตอบไป Chatbot ก็จะจดจำคำตอบ หากเกิดคำถามลักษณะนี้ขึ้นอีก Chatbot ก็จะสามารถตอบได้ด้วยตัวเองเลย การทำการตลาดออนไลน์จึงช่วยคุณประหยัดเวลาในการตอบคำถามด้วยตัวเอง สามารถสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างธุรกิจของคุณและลูกค้าได้ครั้งละหลาย ๆ คน และยังช่วยให้คุณมีทรัพยากร รวมถึงเวลาในส่วนนี้ไปรังสรรค์ส่วนอื่น ๆ ในธุรกิจของคุณเพิ่มเติมได้อีกด้วย

เห็นได้ว่าการทำตลาดออนไลน์มีข้อดีมากมายเลยทีเดียว แต่การทำการตลาดออนไลน์ก็มีหลายขั้นตอนเช่นกัน ในการจะโฆษณาสินค้าในแต่ละชิ้น คุณจะต้องเริ่มจากการวางแผนการตลาด การคิดคอนเซ็ปต์ให้เข้ากับสินค้า การคิดคอนเทนต์ที่น่าสนใจ รวมไปถึงให้ผู้คนหยุดดูสินค้าของคุณเพื่อเพิ่มยอดการเข้าถึงที่มากขึ้น ด้วยการตลาดออนไลน์ที่มีขั้นตอนที่มีหลายขั้นตอน ดังนั้นจึงได้เกิดการรับทำการตลาดออนไลน์ขึ้นมา โดยผู้ที่รับทำการตลาดออนไลน์นั้น จะรับผิดชอบในทุกขั้นตอนของการทำการตลอด ไม่ว่าจะเป็นการรับผิดชอบและผลิตคอนเทนต์ การดูแลเพจ Facebook เพื่อคอยทำให้เพจของคุณมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา หรือจะเป็นการเขียนบทความเพื่อเรียกความสนใจจากผู้ซื้อมากขึ้น และที่ Convert Digital เรารับทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า หรือโฆษณาประเภทไหน Convert Digital ก็สามารถทำการตลาดออนไลน์และช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นได้ เพราะในปัจจุบันยิ่งแบรนด์ของคุณมีคนพบเห็นและรู้จักมากขึ้นแค่ไหน ยอดการซื้อก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งยิ่งคนรู้จักมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเปิดทางให้กับการโฆษณาสินค้าได้ในระยะยาวอีกด้วย

Read More

บริษัทรับทำ SEO ในกรุงเทพฯ

บริษัทรับทำ SEO ในกรุงเทพฯ ที่คุณวัดผลได้

SEO (Search Engine Optimization) นั้นเป็นศัพท์ที่ผู้ประกอบการหลายท่านคุ้นหู หรืออาจจะเข้าใจบริบทในเบื้องต้น แต่ทว่าเมื่อเราพูดคุยกับเจ้าของธุรกิจหลาย ๆ ท่านก็จะพบว่ายังขาดความรู้ความเข้าใจอยู่มาก จึงอาจทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในการทำ SEO มากนัก ดังนั้นหลายธุรกิจจึงหันมาใช้บริการบริษัทรับทำ SEO มืออาชีพเพื่อนำเว็บไซต์คุณขึ้นสู่หน้าแรก ๆ บน Google

Digital marketing agency

SEO คืออะไร?

SEO คือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย โหลดเร็ว มี keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณในรูปแบบ และตำแหน่งที่เหมาะสม จนทำให้เว็บไซต์คุณติดหน้า 1 บน Google แบบไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา รวมถึงเพิ่มจำนวนลูกค้าได้ไปในตัว

ในปัจจุบันคุณอาจจะพบว่ามีบริษัทรับทำ SEO ในกรุงเทพฯ หลายแห่งซึ่งมีการบริการ ข้อจำกัด และราคาแตกต่างกันไปตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบการบริการของเราให้คุณทราบในรายละเอียดกันครับ

บริการ SEO ของ Convert Digital แตกต่างอย่างไร?

  1. คุณภาพสูงในราคาที่คุณพึงพอใจ: ด้วยคุณภาพและรายละเอียดที่เป็นมาตรฐานสากล มีลูกค้าเป็นบริษัทข้ามชาติ บริษัททั้งในและต่างประเทศในทุกหมวดอุตสาหกรรมที่ไว้วางใจเรา เพียงแค่ค่า platform ที่เราใช้วิเคราะห์นั้นมีค่าใช้จ่ายถึงปีละหลักแสน ทั้งหมดนี้เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของเราให้ธุรกิจคุณ ยังไม่รวมทีมผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์กว่า 10 ปีในสาย SEO โดยเฉพาะ
  2. ไม่จำกัดจำนวนคีย์เวิร์ดและหน้าสำหรับทำ SEO: บางบริษัทจะมีแพ็กเกจย่อยที่จำกัดจำนวน keyword จำนวนหน้าที่ทำการปรับปรุง รวมถึงข้อจำกัดอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งบริษัท Convert Digital ไม่มี เราทำให้ครบทั้งเว็บไซต์ ไม่จำกัดในราคาเดียว
  3. บริการครบวงจรแบบไม่มีข้อจำกัด: การรันตีเห็นผลอย่างชัดเจนใน 8-12 เดือนเท่านั้น โดยระหว่างทางคุณจะเห็นผลงานและความเคลื่อนไหวในทุกเดือนเป็นตัวเลขที่วัดผลได้
  4. คุณสามารถดูตัวอย่างผลงานการทำ SEO ที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่

ทำไมคุณควรอยู่หน้าแรกบน Google?

ทำไมถึงจะไม่ล่ะ? ในเมื่อเว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1-3 บน Google จะได้ผู้เข้าชมและคลิกในปริมาณที่มากกว่า 75% ของผู้ค้นหาทั้งหมด การที่คุณอยู่ในตำแหน่งแรก ๆ หมายถึงลูกค้าที่ค้นหาจะเจอคุณก่อนตลอดเวลาโดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินโฆษณาสักบาท และทำให้คู่แข่งของคุณต้องอิจฉาอีกด้วย

บทความ SEO เขียนอย่างไร?

หลักการเขียน SEO ก็คืองานเขียนที่ไม่ได้เน้นเพียงการขายสินค้าหรือโฆษณาธุรกิจของคุณเพียงเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นงานเขียนที่มีคุณค่าช่วยให้ผู้คนที่ค้นหาข้อมูลได้ประโยชน์สูงสุด รวมถึงให้เหล่าเว็บเสิร์จเอนจินมองเห็นว่าบทความของคุณเป็นบทความที่มีคุณค่าในหมวดเนื้อหาเดียวกัน Google จึงจัดอันดับให้บทความของคุณอยู่ในหน้าแรก ๆ

ความยากของการทำ SEO

  1. การเลือกคีย์เวิร์ด ในส่วนนี้จะช่วยให้ผู้คนสามารถเสิร์ชเจอได้ง่าย แต่การเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร บางครั้งคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้อาจเฉพาะกลุ่มเกินไป หรือ ในบางครั้งคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้ก็อาจกว้างไปเลยเช่นกัน แม้ส่วนบริษัทรับทำ SEO ในกรุงเทพฯ หรือแม้แต่ผู้ที่มีความรู้เบื้องต้นจะใช้ tools อย่าง google keyword planner แต่ในการเลือกที่ดีนั้นต้องอาศัยประสบการณ์ควบคู่ไปด้วยจึงจะเลือกได้อย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุด
  2. การใส่คีย์เวิร์ดซ้ำ ๆ เพื่อให้เว็บเสิร์จเอนจิ้นคิดว่าบทความนี้เป็นบทความ SEO ซึ่งเราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและถูกถ่ายทอดจนกลายเป็นเทคนิคหนึ่งของการเขียนบทความ SEO กันเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันเว็บเสิร์จเอนจินก็มีการเรียนรู้โดยใช้ Algorithm จึงสามารถทำให้จับได้ว่าบทความดังกล่าวเป็นเพียงบทความที่มีคำซ้ำ ๆ แต่ไม่ได้เป็นบทความ SEO คุณภาพ เทคนิคนี้จึงกลายเป็นเทคนิคที่ล้าสมัยในโลกดิจิทัลปัจจุบัน
  3. การคัดลอกบทความจากเว็บไซต์อื่น ๆ มาแล้วปรับนิดแต่งหน่อยให้กลายเป็นบทความ SEO ของเราเอง ส่วนนี้ก็เป็นอีกเทคนิคที่มักพบเจอได้ในบทความ SEO แต่การที่คุณจะใช้เทคนิคนี้ได้นั้นคุณต้องมั่นใจก่อนว่าเว็บไซต์ของคุณใหญ่และมีผู้คนเข้าถึงมากกว่าเว็บไซต์ที่คุณทำการคัดลอกมา เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นเว็บเสิร์จเอนจินคงเลือกเว็บไซต์ต้นฉบับที่คุณทำการคัดลอกมา แทนที่จะเป็นเว็บไซต์ของคุณในการขึ้นบนหน้าแรกของเว็บเสิร์จเอนจินแทน และเทคนิคนี้ก็เป็นอีกเทคนิคที่เรียกว่าเป็นเทคนิคเทา ๆ เพราะเป็นการนำงานบทความ SEO ของผู้อื่นมาเปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลง จึงไม่เป็นที่น่าพึงกระทำสำหรับนัก SEO มืออาชีพ
  4. บทความที่เขียนขึ้นเป็น SEO แล้วแต่ไม่ซัพพอร์ตธุรกิจของคุณ ในส่วนนี้บทความของคุณจัดว่าเป็น SEO สามารถขึ้นหน้าแรกบนเว็บเสิร์จเอนจิ้นได้แล้ว แต่บทความ SEO นี้ไม่สามารถช่วยซัพพอร์ตให้ธุรกิจของคุณได้
  5. เน้นปริมาณของ SEO มากกว่าคุณภาพ ซึ่งส่วนนี้ก็เกิดจากความเชื่อที่ว่าบทความที่มีเนื้อหาปริมาณมากจะเป็นบทความที่มีคุณภาพนั่นเอง ซึ่งส่วนนี้เองก็ได้มีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่าบทความที่มีปริมาณมากไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นบทความ SEO ที่มีคุณภาพเสมอไป กล่าวคือ SEO ที่ดีก็ต้องมีทั้งส่วนของปริมาณเนื้อหาที่พอเหมาะไม่มากหรือน้อยจนเกินไป รวมถึงเนื้อหาภายในก็เป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพคู่ควรกับการที่ Google จะจัดอันดับเว็บของคุณให้อยู่ในหน้าแรก

ณ จุดนี้เราจึงพบว่าการเขียนบทความ SEO ก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและชำนาญทั้งการเขียนเกี่ยวกับธุรกิจและการเขียนบทความในรูปแบบ SEO ซึ่งความเชี่ยวชาญในการเขียนบทความเกี่ยวกับธุรกิจนั้น ๆ ของคุณเองอาจเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับคุณ แต่การที่บทความนั้น ๆ จะกลายเป็นบทความในรูปแบบ SEO คุณภาพต้องอาศัยทั้งการฝึกฝนและประสบการณ์อีกด้วย ซึ่งส่วนนี้พนักงานที่บริษัทของคุณอาจไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนี้ จึงทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ทำไมควรจ้างบริษัทรับทำ SEO แตกต่างจากการเขียนเองอย่างไร?

สำหรับการเขียนคอนเทนต์ SEO ในปัจจุบันนั้น สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่พอมีประสบการณ์อาจจะพอเข้าใจแล้วว่าจะช่วยเพิ่มยอดคนดูได้มากกว่าการเขียนบทความแบบปกติ แต่สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่อาจจะยังสงสัยว่าจริง ๆ แล้ว SEO คืออะไร ทำอย่างไร? ทำไมใคร ๆ ต่างก็อยากได้บทความ หรือคอนเทนต์แบบ SEO? SEO สำคัญขนาดไหน ถึงได้มีบริษัทรับทำ SEO? วันนี้เราจะตอบคำถามที่คุณเองก็อาจจะยังไม่รู้ก็เป็นได้

การเขียนบทความและลงโฆษณาในปัจจุบันอาจจะไม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะเมื่อมีเครื่องมือของกูเกิลที่เรียกว่า Google Keyword Planner เข้ามาใช้ในการเขียน เราก็จะสามารถรู้ได้ว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ผู้คนกำลังค้นหาอะไรบ้าง และถึงแม้จะมีจุดประสงค์เดียวกัน แต่ก็อาจจะใช้คำค้นหาที่แตกต่างกัน บริษัทที่รับทำ SEO จึงได้รับหน้าที่ในการรับดูแลการค้นคำค้นหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน หัวเรื่องนั้น ๆ เพราะเมื่อบทความของคุณติดอันดับสูงมากเท่าไหร่ ก็จะเพิ่มการมองเห็นได้มากขึ้นเท่านั้น เช่น การทำ SEO เรื่อง ขนมไทย ถ้าหากคุณได้จ้างบริษัทรับทำ SEO ที่เข้าใจในหลักการทำงานที่แท้จริง เว็บไซต์ของคุณอาจจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ในหน้าค้นหาของ Google และมีคนเข้ามาเยี่ยมชมอย่างล้นหลามเลยก็เป็นได้

ดังนั้นการทำ SEO ที่ช่วยให้บทความของคุณมีเนื้อหาที่ตรงใจและตอบสนองความต้องการของผู้ที่ค้นหา จึงมีความสำคัญมากกว่าการเขียนปกติ เพราะเมื่อคุณเผยแพร่บทความของคุณไปแล้ว Google จะตรวจจับคีย์เวิร์ดในบทความของคุณ และนำไปแสดงในผลการค้นหาที่เรียงลำดับการค้นหาตามความนิยม รวมไปถึงเว็บไซต์ที่มีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับการค้นหามากที่สุด

Digital-marketing-agency-in-bangkok-sme-Google-SEO
digital-marketing-agency-bangkok-SEO-agency-bangkok-man

ทำไมคุณถึงต้องเลือกเราในการทำ SEO?

ด้วยบริษัทรับจ้างเขียน SEO มีปริมาณมาก แต่ไม่ได้การันตีในความสำเร็จของธุรกิจของคุณได้ ซึ่งแตกต่างจากเราที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคุณภาพที่พร้อมจะเป็นผู้นำพาความสำเร็จมาสู่ธุรกิจของคุณ พร้อมการรายงานผลด้วยตัวเลข กราฟและการประชุมที่จะอธิบายให้คุณเข้าใจความเคลื่อนไหวได้อย่างชัดเจน ทีมงานของเราสามารถทำความเข้าใจธุรกิจของคุณ แล้วเราสามารถเขียนออกมาในรูปแบบของ SEO ได้ ซึ่งคุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าเป็นหลักการเขียน SEO ที่ถูกต้องสามารถนำพาธุรกิจของคุณทะยานขึ้นสู่หน้าแรกของเว็บเสิร์จเอนจินได้อย่างแน่นอน แถมเรายังมีความยืดหยุ่นให้กับคุณและธุรกิจของคุณด้วยการไม่จำกัดจำนวนคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เรายังให้บริการ SEO ในราคาที่ถูกกว่า คุณจึงสามารถนำเงินลงทุนในส่วนนี้ไปเพิ่มศักยภาพในด้านอื่นๆ ให้กับธุรกิจของคุณได้อีก และที่สำคัญเลยคือการบริการของเราเป็นการบริการครบวงจร ไม่มีข้อจำกัด เห็นผลใน 8 – 12 เดือน

Read More