พฤษภาคม 31, 2022

การตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจโรงแรมต้อนรับการเปิดประเทศ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์โควิด 19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมที่หลายแห่งต้องลดขนาดธุรกิจ หรือแม้แต่หยุดให้บริการชั่วคราวตามมาตรการต่าง ๆ เราในฐานะผู้ทำการตลาดออนไลน์ให้โรงแรมทุกระดับตั้งแต่ Inter Chain ที่คุ้นหู ไปจนถึง private hotel ระดับ 3-5 ดาว ไม่ว่าคุณจะเป็นโรงแรมแบบไหน ช่วงสองปีที่ผ่านมาก็นับเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เป็นอย่างดี 

ในปัจจุบันด้วยสถานการณ์ที่เริ่มผ่อนคลายขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่โครงการ Sandbox โครงการ Test & Go และล่าสุดกับการยกเลิกผลตรวจโครงการ Test & Go เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบอย่างคึกคักอีกครั้ง หลายโรงแรมที่เคยหยุดกิจการหรือระงับการทำการตลาดออนไลน์ชั่วคราวก็ต่างกลับมาเดินเครื่องเร่งหาลูกค้า แต่คำถามสำคัญที่ผู้บริหารมักจะพบคือคุณพร้อมแค่ไหนในการกลับมาเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หลังจากที่ไม่ได้ให้บริการอย่างเต็มรูปแบบมากกว่าสองปี? มาถึงวันนี้รูปแบบในการทำการตลาดของคุณยังเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่ทุกคนใช้ได้ผลในสองปีก่อน ในปัจจุบันก็มีทั้งโฆษณารูปแบบใหม่ ๆ แพลตฟอร์มที่เปลี่ยนไป ฯลฯ ให้คุณขบคิดเพิ่มขึ้น

การมีกลยุทธ์การตลาดออนไลน์สำหรับโรงแรมที่ชัดเจน และการกล้าลงทุนอย่างเหมาะสม มี data และผลตอบแทนที่คาดหวังได้เป็นเกณฑ์จะเป็นตัวช่วยให้โรงแรมสามารถกลับเข้าสู่ตลาดการแข่งขันได้รวดเร็วและได้เปรียบกว่าคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมคู่แข่งหรือแม้แต่ OTA อย่าง Booking.com หรือ Expedia 

เมื่อสถานการณ์บังคับให้คุณชนะเกมการตลาดออนไลน์โรงแรมที่แข่งขันสูง (มาก) คุณรู้หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร?

การทำการตลาดออนไลน์ให้โรงแรมนั้นสามารถทำให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เจาะจงให้ตรงกลุ่มมากยิ่งขึ้นหากทำอย่างมีหลักการและมีการวางแผนเก็บข้อมูลอย่างละเอียดแต่แรก ผลสำรวจจากโครงการ Thailand Digital Outlook ปี 2564 พบว่าคนไทยกว่า 85.1% ใช้งานอินเทอร์เน็ต และใช้เวลานานถึง 6 – 10 ชั่วโมง จากตัวเลขนี้จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันคนใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์ไปแล้วเกือบครึ่งวัน ดังนั้นการย้ายธุรกิจของตัวเองขึ้นไปทำการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ “ด้วยตัวเอง” โดยไม่ง้อ booking จาก OTAs จึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะหากคุณปล่อยให้ OTAs ขายโรงแรมคุณจนเคยชิน การจะเพิ่ม % Direct booking นั้นอาจแทบเป็นไปไม่ได้เลยหากคุณไม่มีความพร้อมเพียงพอทั้งด้านบุคลากรที่มีความสามารถ การลงทุน ฯลฯ 

เครื่องมือการตลาดออนไลน์โรงแรมหลัก ๆ ที่ควรเลือกมาต้อนรับการเปิดประเทศ

ในเมื่อทุกโรงแรมมีเครื่องมือเท่ากัน สิ่งสำคัญที่สุดจึงเป็นการนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมอย่างทันท่วงที เราเชื่อว่าคุณคงใช้เครื่องมีเหล่านี้อยู่แล้ว แต่การใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น น้อยโรงแรมที่จะทำได้ ดังนั้นเราจะมีมาตรฐานให้คุณลองนำไปใช้ดูครับ

Social Media

การสร้างแบรนด์และคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย จะช่วยให้โรงแรมเป็นที่รู้จักได้เยอะขึ้นและง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำคอนเทนต์ที่มีลักษณะเฉพาะ มีความแตกต่างและเฉพาะตัว จะทำให้แบรนด์ของโรงแรมมีความน่าติดตามมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการทำคอนเทนต์ที่เป็นภาพนิ่งแล้ว การทำวิดีโอจะทำให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และยังสามารถถ่ายทอดบรรยากาศรอบ ๆ สถานที่ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น นี่จะเป็นสิ่งที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจของลูกค้าที่จะมาเข้าพักได้เป็นอย่างดี

นอกจากการใช้โซเซียลมีเดียเป็นช่องทางการโปรโมตที่พักและโปรโมชันแล้ว การเพิ่มช่องทางการรับ booking ผ่านโซเซียลมีเดีย โดยเฉพาะโรงแรมที่มีความสวยงามหรือ boutique hotel ต่าง ๆ ที่ถ่ายรูปสวยจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ 

นอกเหนือจากการลงโพสต์ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอแล้ว เราขอเน้นย้ำกว่าการยิง Ads ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้วในยุคนี้ เพราะ Facebook, Instagram และช่องทางอื่น ๆ ล้วนแต่มี content เพิ่มมากขึ้นทุกวัน การโฆษณาที่เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้เล่นทำให้ทุกคนแย่งพื้นที่การโฆษณาจึงทำให้ Ads แพงขึ้นอย่างชัดเจน การเลือก Targeted Audiences ถือว่าสำคัญมาก เพราะแสดงให้เห็นว่าเรารู้จักลูกค้าเรามากแค่ไหน และเราสามารถเสิร์ฟในสิ่งที่ลูกค้าเราต้องการได้ตรงใจหรือไม่ และผลลัพธ์เป็นไปตามที่เราคาดหวังในการทำแคมเปญ คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ทั้งหมดนี้เราแนะนำว่าคุณควรวางระบบให้วัดผลได้ถึง ROI และจำนวนยอดจอง ซึ่งหลายโรงแรมล้วนทำเช่นนี้เพื่อจะวัดประสิทธิภาพของ Ads แต่ละแคมเปญที่รันโดยใช้ Facebook Pixel ร่วมกับเครื่องมืออย่าง Google Analytics, Adobe Omniture ฯลฯ 

สำหรับโรงแรมไหนที่ไม่สามารถทำ tracking ได้ถึงขั้นนี้ เราก็แนะนำให้ใช้ Ads ประเภท Message ซึ่งสามารถนับจำนวนลูกค้าที่ทัก Inbox เข้ามาสอบถามต่อเดือน และวัดจากความถูกหรือแพงของ cost/message เพื่อวัดประสิทธิภาพของ Ads ไปในตัวแทน

SEO (Search Engine Optimization)

จะดีแค่ไหนถ้าลูกค้าของคุณเข้า Google แล้วพิมพ์คำค้นหากว้าง ๆ อย่าง “โรงแรม 5 ดาวพัทยา” แล้วเว็บไซต์ของคุณขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ นั่นหมายความว่าคุณจะได้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มีความสนใจซื้อจำนวนมากมาแบบไม่ต้องเสียเงินซื้อโฆษณา แถมเจอโรงแรมคุณโดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปค้นหาจาก OTAs ให้ทางโรงแรมต้องเสียค่าคอมมิชชันแพง ๆ อีกด้วย

สำหรับโรงแรมที่ไม่เคยทำ SEO มาก่อน การทำ SEO เริ่มต้นง่าย ๆ ที่การทำ Keyword Research สำหรับตลาดในพื้นที่ของคุณ จากนั้นนำมาปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีคำเหล่านั้นมากขึ้น นำมาเขียนเป็นบทความ มีการทำ SEO-Optimization รวมไปจนถึงการปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสมและโหลดได้ไวบนมือถือ สิ่งที่สำคัญการทำ SEO จะต้องอาศัยเวลาและความสม่ำเสมอ เพราะผลลัพธ์จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 1 เดือน อาจจะต้องใช้เวลาเป็นหลักปีถึงจะเห็นผลเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และการที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เราต้องการนั้นอาศัยความสม่ำเสมอในการเขียนบทความที่น่าสนใจโดยอิงหลักการทำ SEO ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาวเราเข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกโรงแรมจะอนุมัติงบส่วนนี้ แต่อย่างไรก็ตามหากคุณไม่เริ่มทำก็จะไม่สามารถเพิ่ม % Direct Booking ให้โรงแรมได้อย่างมีนัยยะสำคัญเนื่องจากไม่มีใครหาเว็บไซต์คุณเจอจากคำค้นหาสำคัญ ๆ นั่นเอง

การตลาดออนไลน์ด้วย Google My Business

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในหมวดการทำ SEO โรงแรมก็คือการทำ Local SEO ที่จะทำให้เว็บไซต์โรงแรมติดอยู่หน้าหนึ่งของ Google โดยที่นำ Longtail Keywords มาใช้ พร้อมเพิ่มคำพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานที่ตั้งของโรงแรม เช่น “โรงแรมภูเก็ต หาดกะรน” เราต้องมีการเพิ่มคำเหล่านี้ในเว็บไซต์ของเราเพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายแคบลงและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ในส่วนข้อมูลบน Google My Business / Google Maps นี้ก็สำคัญเช่นกันว่าข้อมูลต้องอัปเดตอย่างถูกต้องและครบถ้วน Google Map ควรปักหมุดสถานที่อย่างถูกต้อง และยิ่งถ้ามีรีวิวคะแนนดี ๆ จากลูกค้า ก็ส่งผลต่อแสดงผลลำดับดี ๆ บนหน้า Google ได้อีกด้วย เมื่อคุณลองไปไล่ดูทุกช่องทางตั้งแต่เว็บไซต์, social media, Google maps, etc. คุณอาจประหลาดใจว่า hotel address และเบอร์ติดต่ออาจไม่เหมือนกันสักช่องทางเพราะเคยทำไว้นานแล้ว สิ่งเหล่านี้ควรเหมือนกันทุกตัวอักษรเพื่อให้คนค้นหาคุณได้อย่างถูกต้อง

Paid Ads

หรือการโฆษณาออนไลน์แบบซื้อมา เช่นการลงโฆษณากับ Google เป็นการทำโฆษณาออนไลน์ทำให้โรงแรมสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังค้นหาโรงแรมอยู่ในขณะนั้น ทำให้เราไม่พลาดที่จะนำเว็บไซต์ขึ้นโชว์ในตำแหน่ง #1-4 ตอนที่ลูกค้าค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดต่าง ๆ เช่น “โรงแรม 5 ดาวกระบี่” “ร้านอาหารเชียงใหม่” ฯลฯ ที่เราทำการเลือกไว้ หรือการทำ Ads รูปแบบอื่นบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น TripAdvisor, Expedia ฯลฯ ที่ต้องจ่ายเงินโฆษณา

การทำ Paid Ads ในธุรกิจโรงแรม ต้องบอกเลยว่าอาจจะต้องใช้เงินค่าโฆษณาค่อนข้างสูงเพราะต้องทำการแข่งขันกับเหล่า OTAs เจ้าใหญ่ที่ก็ทำการตลาดออนไลน์ด้วยงบที่มากกว่า รวมถึงต้องจับกลุ่มลูกค้าต่างชาติจากหลายประเทศ ซึ่งขนาดประเทศอย่าง US ก็เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ดังนั้นเราจะต้องประเมินค่าโฆษณาให้เหมาะสมและขึ้นอยู่กับ Strategy ของแต่ละโรงแรมว่าจะลงทุนเท่าใด มี ROI กี่เท่า โดยมากแล้วโรงแรมที่เล็กมาก ๆ และมีงบน้อยจะใช้งบประมาณตั้งแต่เดือนละ 15,000 บาทขึ้นไปเป็นค่าโฆษณา ส่วนโรงใหญ่ ๆ อาจแตะหลักหลายหมื่นหรือแสนต้น ๆ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าในหลายประเทศ ในหลายเมืองที่ให้กำไรดีที่สุด ซึ่งการที่โรงแรมยอมลงทุนได้มากเนื่องจากมีการทำ tracking ไว้ดีแล้วจนสามารถเห็นได้ว่ามียอดจองเข้ามาเป็นจำนวนกี่บาทนั่นเอง การติดตั้ง conversion tracking จึงเป็นเรื่องสำคัญมากก่อนที่คุณจะทำโฆษณาก้อนใหญ่

การตลาดออนไลน์ด้วย KOL

รีวิวจาก KOL / Influencer

การมี KOL ที่มีผู้ติดตามเหนียวแน่น มีการสร้างคอนเทนต์ที่ดีจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ถ่ายทอดประสบการณ์การเข้าพักที่โรงแรมของคุณได้อย่างสวยงาม ซึ่งรีวิวส่วนใหญ่จะเป็นการรีวิวบนโซเซียลมีเดียต่าง ๆ การเล่าเรื่องจากบุคคลเหล่านี้สามารถสร้างแรงจูงใจในการเข้าพักและช่วยสร้างกระแสให้โรงแรมเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย ในตลาดคนไทยต้องยอมรับว่าวิธีนี้ค่อนข้างที่จะได้ผลดี แต่อาจจะมีข้อที่ต้องระวัง นั่นก็คือ ต้องทำการรีวิวอย่างจริงใจและตรงไปตรงมาถึงจะได้ผลดีระยะยาว มิฉะนั้นอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย รวมถึงไลฟ์สไตล์การนำเสนอของ KOL ต้องเหมาะกับโรงแรมของเราด้วยเช่นกัน เพราะจะส่งผลถึงภาพลักษณ์ของโรงแรมที่สร้างมาด้วย การเลือก KOL ให้ได้ผลนั้นจำเป็นต้องใช้ KOL ที่เป็นที่รู้จักในวงการ หรือมีผู้ติดตามจำนวนมากเช่นหลักหลายแสนคนจึงจะได้ผลดี หากใช้ KOL ที่ผู้ติดตามน้อย เช่นต่ำกว่า 10,000 follower มักจะไม่เกิดผลที่มีนัยยะสำคัญ และนอกจากนี้ยังควรทำอย่างต่อเนื่องหลายเดือนติดต่อกัน ปนกันไปทั้ง KOL ที่มีผู้ติดตามเยอะและปานกลาง ไม่ใช่ทำเพียงแค่เดือนเดียวและคาดหวังผลลัพธ์ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นในแง่ของยอดขาย

ไม่ว่าคุณจะกำลังการทำการตลาดออนไลน์โรงแรมเพื่อเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ที่มากขึ้นอย่างไร เราเชื่อได้ว่าจุดประสงค์หลัก ๆ ก็คือการสร้างรายได้ให้กับโรงแรมอย่างยั่งยืนและเพิ่มจำนวน Direct Booking % เพื่อลดค่าคอมมิชชันที่ต้องจ่ายลง 

 

การตลาดออนไลน์โรงแรมสามารถเริ่มทำด้วยตัวเองได้ แต่ถ้าคุณและทีมงานทำแล้วมีข้อกังวล ไม่สามารถวัดผลได้ชัดเจนเป็นตัวเลข ROI หรือแม้แต่จะขาดความรู้ความชำนาญในการเริ่มต้น ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Convert Digital สามารถเป็นตัวช่วยให้กับโรงแรมของคุณได้ด้วยบริการด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น SEO โซเซียลมีเดีย การซื้อโฆษณาออนไลน์ งานครีเอทีฟที่เป็นภาพและวิดีโอ การสร้างแบรนด์ นอกจากนี้ยังมีผลงานการเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้กับโรงแรมตั้งแต่ 3 ดาว ไปจนถึง 5 ดาว luxury ที่เป็นโรงแรม chain ทั้งในไทยและต่างประเทศ จึงมั่นใจได้ว่าเราจะมีประสบการณ์และความชำนาญมากเพียงพอในการสร้างรายได้ผ่านการตลาดออนไลน์โรงแรมให้คุณได้เป็นอย่างดี

 

ชมผลงานโรงแรมของเราที่ : www.convertdigital.co.th/th/bangkok-digital-marketing-agency-project

About Post Author