เพิ่มยอด Book Direct และจ่าย OTA Commission ให้น้อยลง
โรงแรมของคุณไม่ได้แข่งขันกับแค่โรงแรมอื่น ๆ แต่ยังแข่งขันกับ OTA (Online Travel Agent) อย่าง Booking.com, Expedia, Agoda ฯลฯ โรงแรมหลาย ๆ แห่ง โดยเฉพาะ Non-brand อาจจะจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ OTA มากถึง 20% ในบทความนี้ เราจะแชร์ checklist เพื่อให้คุณนำไป audit เว็บไซต์ได้ด้วยตัวเองและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรระยะยาว
ทำไมคุณต้องจ้าง Hotel SEO Agency กรุงเทพ?
หากคุณอยู่ในธุรกิจโรงแรม คุณน่าจะทราบดีว่าทำไมการทำเว็บไซต์โรงแรมให้แข็งแรง เพื่อให้มี book direct มากขึ้นจึงสำคัญกับกำไรสุทธิของโรงแรมคุณ แน่นอนว่าไม่มีโรงแรมไหนอยากพึ่งพา Channel OTA ในสัดส่วน 70-90% ของรายได้ทั้งหมด และจ่ายคอมมิชชั่น 15-30% จากยอดที่ได้ ถ้าคุณเป็นโรงแรมแบรนด์ คุณอาจจะโชคดีที่มี corporate ที่ช่วยทำการตลาดและมีแบรนด์ที่ลูกค้ารู้จักอยู่แล้ว แต่สำหรับโรงแรม local brand ต่าง ๆ ซึ่งไม่มีความรู้ในด้าน SEO เลย พวกเขาอาจไม่มีใครรู้จักเลยหากไม่ใช่เพราะ OTAs
Hotel SEO (Search Engine Optimization) จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้มีลูกค้าเข้าเว็บไซต์มากขึ้น การปรับปรุงเว็บไซต์อย่างละเอียดและถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านความเร็วในการโหลด การทำ keyword research การเขียนคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ รวมถึงการสร้างลิงก์ต่าง ๆ เป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่ SEO เป็นสาขาที่ค่อนข้างเฉพาะ หลาย ๆ โรงแรมจึงไม่มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรง และไม่สามารถพัฒนา SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ว่าจะทราบดีถึงความจำเป็นก็ตาม
ในบทความนี้ เราจะทำ checklist เพื่อให้คุณนำไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของตัวเอง มาเริ่มกันเลยดีกว่า
เช็กลิสต์ของคุณ
- ดูว่ามี SSL certificate หรือไม่
Hotel SEO agency กรุงเทพของเราจะเริ่มจากการทำ audit เว็บไซต์คุณ หลาย ๆ ครั้งเราพบว่าสิ่งที่บกพร่องเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่าง SSL certificate ซึ่งสังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยสัญลักษณ์แม่กุญแจสีเขียวใกล้ ๆ URL ของคุณ หากคุณไม่มีสัญลักษณ์แม่กุญแจสีเขียว แสดงว่าคุณไม่ได้ใช้ SSL Certificate และต้องแก้ไขที่ Hosting provider ของคุณ (ปกติ SSL Certificate จะฟรี)
- หา keyword ที่มีคนค้นหาจริง
คุณควรทราบว่าลูกค้าของคุณจะหาโรงแรมของคุณเจอด้วยการค้นหาว่าอะไร คุณสามารถสร้าง Google ads account และใช้ tool อย่าง ‘keyword planner’ เพื่อค้นหาคำที่ลูกค้าหาจริง ๆ
- เขียนคอนเทนต์ที่มีประโยชน์
Hotel SEO agency กรุงเทพฯ ของเราสามารถช่วยคุณเขียนคอนเทนต์คุณภาพได้ แต่หากคุณสามารถเขียนเอง เราแนะนำว่าไม่ควรต่ำกว่า 300 คำต่อบทความ ต้องเป็นบทความที่ไม่ได้คัดลอกมาและมีประโยชน์อีกด้วย เนื้อหาของบทความยังควรจะต้องมี ‘hook’ ที่จะทำให้ผู้อ่านติดใจอ่านต่อไปเรื่อย ๆ เราแนะนำว่าคุณควรมี blog บนเว็บไซต์ไว้สำหรับทำ SEO โดยเฉพาะโดยการใส่บทความเข้าไปเพื่อเพิ่มโอกาสในการ rank ของเว็บคุณ ดังนั้นคอนเทนต์จึงเป็นอีกสิ่งที่คุณควรใส่ใจ
- เช็ก Online Presence ของคุณ
GMB (Google My Business) เป็นเครื่องมือฟรีที่คุณสามารถทำให้คนค้นพบธุรกิจของคุณได้มากขึ้น ธุรกิจที่ยืนยันตัวตนบน GMB แล้ว จะปรากฎบน Google Maps และ Search จึงทำให้มีโอกาสสูงขึ้นที่ลูกค้าจะค้นพบคุณ
ประเด็นอื่น ๆ ที่ควรทราบ
- เช็กความเร็วของเว็บไซต์ด้วย GTmetrix.com
มีหลายเครื่องมือเช่น GTmetrix.com ที่คุณสามารถเช็กความเร็วของเว็บไซต์ได้ เว็บที่เร็วกว่าจะได้รับ ranking ที่สูงกว่าเสมอ คุณจะสามารถดู Y slow score, Page speed score และ Analysis ต่าง ๆ เพื่อค้นหาว่าทำไมเว็บไซต์จึงโหลดช้า คุณยังสามารถอัปเกรดเป็น GTmetrix Pro ซึ่งจะทำให้คุณสามารถ test จากหลายประเทศและมีข้อมูลเชิงลึกเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
- การปรับปรุงทางเทคนิค
Meta title, Meta description และ alt tag สำคัญมากในการทำ hotel SEO การปรับปรุงอย่างเหมาะสมจะทำให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสขึ้นหน้า 1 มากขึ้น คุณสามารถหา Meta title และ Meta description ได้เมื่อเข้าชมเว็บไซต์และกด F12 หรือ ctrl +U (คุณอาจจะงงกับโค้ดได้) นอกจากนี้ยังสามารถโหลด Chrome extension ที่ชื่อว่า SEO Meta in 1 click มาใช้งานได้อีกด้วย
- Meta title ที่ว่านี้จะเป็นเหมือนหัวข้อ มีความยาวประมาณ 50-60 ตัวอักษร
- Meta description เป็นเหมือนตัวขยายความ ว่าหน้าเว็บนี้เกี่ยวกับอะไร และสำคัญต่อการที่เว็บของคุณจะได้ ranking ที่ดี หน้าที่ของมันคือการทำให้ลูกค้าอยากคลิกเข้ามาอ่านต่อที่เว็บคุณ ทั้ง Meta title และ Meta Description ต้องมี Keyword อยู่ และต้องเขียนอย่างสละสลวย น่าคลิกต่อ
- Alt tag, Alt attribute หรือ alt description เป็นชื่อเรียกของ Alt tag ซึ่งเป็นเสมือน ‘ชื่อภาพ’ ที่ Google มองเห็น ดังนั้นทุกภาพบนเว็บคุณจึงจำเป็นต้องมี Alt-tag ที่มี keyword อยู่ และต้องอธิบายภาพนั้น ๆ ได้ดี hotel SEO agency กรุงเทพของเราสามารถรันเช็กและช่วยเหลือคุณได้ในจุดนี้