ในปัจจุบันการทำการตลาดออนไลน์กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาว่างไปกับโลกอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข่าวสาร หรือค้นหาสิ่งที่สนใจ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วมือ ผ่านช่องทางออนไลน์ ดั้งนั้นถ้าคุณอยากให้ธุรกิจของคุณไม่พลาดโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของลูกค้าเมื่อลูกค้ามีความต้องการ แผนการตลาดออนไลน์จึงมีความสำคัญ
การทำการตลาดออนไลน์สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Google หรือ Facebook และการใช้โซเชียลมีเดียทำคอนเทนต์ออนไลน์ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ายังมีแผนการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้คนมักจะมองข้าม นั่นก็คือ การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ให้กับเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาเมื่อลูกค้าค้นหา keyword ที่เกี่ยวกับธุรกิจ
การตลาดลักษณะนี้เป็นการทำการตลาดที่ต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะเห็นผลลัพธ์ แต่ถ้าทำสำเร็จติดหน้าแรกแล้วก็จะให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ามากในระยะยาว ลูกค้าบางบริษัทที่เน้นยอดขายหนัก ๆ แบบเห็นผลอย่างรวดเร็ว มักจะลืมทำการตลาดในมุมมองระยะยาวรูปแบบนี้ไป อาจทำให้ไม่สามารถหยุดโฆษณาได้เลยเพราะลูกค้าบนเว็บไซต์มาจากการโฆษณาล้วน ๆ ไม่มีส่วนไหนที่ Search Google แล้วเจอเว็บไซต์เลย จะเริ่มทำ SEO ใหม่ตอนนี้กว่าจะเห็นผลอาจต้องรออีกหลายเดือน
ความสำคัญของการทำ SEO
ถึงแม้การทำ SEO อาจจะใช้เวลานานเกือบปี (เราแนะนำ 8-12 เดือน) กว่าจะทำให้หน้าเว็บติดการค้นหาในหน้าแรกบน Google แต่ถือเป็นแผนการตลาดที่ยั่งยืนมากกว่าการยิงโฆษณา เพราะถ้าหากเราไม่ทำ SEO ไว้แต่เนิ่น ๆ เมื่อไหร่ที่หยุดยิงโฆษณาแล้ว เว็บไซต์ของเราก็จะหายวับไปจากหน้าแรกของการค้นหาบน Google ในทันทีทำให้ผู้เข้าชมตกวูบอย่างน่าใจหายเช่นกัน
และการทำ SEO จะยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีกเมื่อในอนาคตการทำโฆษณาออนไลน์จะมีประสิทธิภาพน้อยลงเนื่องจากนโยบายเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้งาน ที่จะสร้างข้อจำกัดในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่จะมาใช้ในการประมวลผลกลุ่มเป้าหมายของโฆษณา การยิงโฆษณาอาจจะไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากเหมือนแต่ก่อน และอาจจะต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะทุกธุรกิจต่างให้ความสำคัญกับการโฆษณาออนไลน์ เหตุนี้จึงทำให้การทำ SEO หรือแผนการตลาดแบบ organic จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทำแผนการตลาดของธุรกิจต่าง ๆ ในอนาคต
ในเมื่อเป็นแผนการตลาดที่สำคัญ แล้วการทำ SEO คืออะไรกันแน่? ช่วยธุรกิจของเราได้อย่างไร?
การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นการทำให้เว็บไซต์ติดหน้าการค้นหาแรกบน Google โดยการปรับปรุง แก้ไข หรือสร้างเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ให้โหลดเร็ว ใช้ง่าย มีข้อมูลที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และสามารถตอบโจทย์คีย์เวิร์ดที่ลูกค้าค้นหาเกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้ โดยทั้งหมดนี้ไม่ได้เงินโฆษณาแต่อาศัยระยะเวลาและความเชี่ยวชาญด้านระบบ รู้ว่าควรใช้ keyword ประเภทใด ใช้ที่ไหน ใช้อย่างไร เพื่อให้ติด ranking ที่มีคนค้นหาจริง การติดผลการค้นหาในหน้าแรก ๆ จะช่วยเพิ่ม qualified traffic หรือผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ มีแนวโน้มสนใจใช้สินค้าและบริการของเรา และหมายถึงโอกาสในการสร้างยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นด้วยโดยไม่พึ่งโฆษณาเช่นเดียวกัน
7 หัวใจหลักของการทำ SEO
เมื่อเห็นถึงข้อดีและความสำคัญของการทำ SEO แล้ว เราควรที่จะต้องรู้ว่าการทำ SEO นั้นต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยหัวใจหลักของการทำ SEO แบ่งออกได้เป็น 7 ข้อ คือ
1. Website Structure หรือการปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์
เรื่องแรกที่จะต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการจะทำ SEO ก็คือการปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ เพราะการทำ SEO ไม่ใช่แค่การใส่คีย์เวิร์ดเข้าไปยังเนื้อหาต่าง ๆ บนเว็บไซต์ แต่ยังต้องคำนึงถึงคุณภาพของเว็บไซต์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการโหลด การใช้ URLs ที่เหมาะสมกับ SEO การดีไซน์เว็บไซต์ที่สามารถแสดงได้บนอุปกรณ์หลากหลายชนิดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการทำ SEO จึงจำเป็นต้องใช้ทั้งคนทำเว็บ คนเขียนคอนเทนต์ และคนทำรูปภาพที่มีความเป็นมืออาชีพ เราสามารถ audit website คุณและชี้ให้เห็นเป็นจุด ๆ ได้ว่าต้องปรับปรุงส่วนไหน และปรับปรุงอย่างไรเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ Google ยอมรับ ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อประสบการณ์ในการเข้าชมที่ดี ทำให้ ranking สูงขึ้นนั่นเอง
2. Mobile Friendliness หรือการปรับเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับการแสดงผลบนโทรศัพท์
อย่างที่ได้พูดถึงไปในข้อที่แล้วการทำให้เนื้อหาบนเว็บไซต์สามารถแสดงได้บนหลายอุปกรณ์นั้นเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงผลบนโทรศัพท์ การทำให้เว็บไซต์แสดงผลได้ดีบนโทรศัพท์ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องซูมเข้า ซูมออก เลื่อนดูเนื้อหา จะเป็นการเพิ่มคะแนนให้หน้าเว็บไซต์สามารถติดในอันดับต้น ๆ ของการค้นหาได้ในการทำ SEO ในปัจจุบัน Google ให้ความสำคัญของ Mobile Friendly มากกว่า Desktop เพราะด้วยจำนวนคนที่ใช้มือถือในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ด้วยเหตุผลจากความสะดวกและสามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา คุณสามารถใช้เครื่องมือฟรีของ Google อย่าง Page Speed Insights เพื่อดูคะแนนของเว็บไซต์ตัวเองได้: https://pagespeed.web.dev/
3. User Experience ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
เมื่อพูดถึงการแสดงเนื้อหาให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ทุกรูปแบบแล้ว การทำ SEO ก็คงหนีไม่พ้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ คือการทำให้คนเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างราบรื่น ไม่มีข้อผิดพลาด ไม่มีการที่เว็บค้างและ error ทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะกลับเข้ามาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์เรานานขึ้นเพื่อเปิดดูหน้าต่าง ๆ หาข้อมูลหรือซื้อของที่ต้องการ การที่เว็บไซต์มี User Experience ที่ดีจะทำให้อัตรา Bounce Rate หรืออัตราที่ลูกค้าเข้ามายังเว็บไซต์แต่กดปิดทิ้งต่ำลง ส่งผลให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ เหมาะที่จะอยู่หน้าแรก ๆ บน Google
4. Keyword Research การเลือกใช้ Keyword ที่คนค้นหาให้เหมาะสม
การทำ SEO มักอยู่คู่กับการใส่ Keyword ต่าง ๆ ที่มี Search Volume ลงในเนื้อหาของเว็บไซต์ เพื่อให้คนสามารถเห็นหน้าเว็บไซต์ของเราได้ด้วย keyword นั้น ๆ ด้วยการค้นหาคำต่าง ๆ หากเนื้อหามีความเกี่ยวข้องกับ Keyword มากเท่าไหร่จะทำให้หน้าเว็บไซต์สามารถติดผลการค้นหาในอันดับบน ๆ ได้มากเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการแทรก Keyword ต้องทำอย่างพอดี เป็นธรรมชาติและมีความเกี่ยวข้องจริง ๆ กับสิ่งที่หน้าเว็บกำลังพูดถึง ดังนั้นการใส่ Keyword แบบไม่ลืมหูลืมตาหรือพยายามมากเกินไป และจะยิ่งทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดย Google อาจจะมองว่าเป็น Spam ได้ นอกจากในบทความแล้ว Keyword สามารถนำมาใช้ตั้งชื่อรูปภาพในบทความได้ หรือที่เรียกว่า Alt Tag หรือจะเพิ่มใน Slug ต่อท้าย URL ก็ได้ด้วยเช่นกัน
5. Useful Content หรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์
สิ่งที่ต้องระวังในการทำ SEO ก็คือการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่ได้มีความเชื่อมโยง ไม่เป็นประโยชน์ ด้อยคุณภาพ หรือแม้แต่คัดลอกบทความของเว็บไซต์อื่น เป็นสิ่งที่ต้องระวังให้มาก เพราะอาจจะถูกลงโทษโดยโดนถอดหน้านั้นออกจาก การค้นหาบน Google เลยก็เป็นได้ การเขียนบทความที่น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์ ผ่านการเรียบเรียงที่ดี จึงเป็นเรื่องสำคัญในการทำ SEO
6. Social Media การแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดีย
เมื่อเรามีเนื้อหาที่ดีแล้ว การหาช่องทางกระจายหรือเผยแพร่เนื้อหาก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการแชร์ไปยังช่องทาง Social Media ต่าง ๆ ซึ่งไม่เสียเงินและเป็นการช่วยเพิ่มการเยี่ยมชมเว็บไซต์ให้มากขึ้น
7. Backlinks การสร้างลิงก์บนเว็บไซต์อื่น ๆ ให้กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา
การทำ SEO นั้นให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหาอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น การทำ backlink เป็นการบ่งบอกให้ Google รู้ว่าบทความหรือเนื้อหาของเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ และสามารถเป็นแหล่งอ้างอิงของข้อมูลบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.convertdigital.co.th/th/what-is-backlink/
การใช้แผนการตลาดด้วยการทำ SEO จะทำให้ธุรกิจสามารถขยายโอกาสในการสร้างรายได้โดยไม่ต้องเสียงบประมาณในการโฆษณา และยังสามารถทำให้มีการเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มากขึ้นจากผลการค้นหาได้อย่างยั่งยืนมากกว่า อย่างไรก็ตามการทำ SEO นั้นเป็นแผนการตลาดระยะยาว ที่ต้องใช้เวลาและการวางแผนที่ดูอาจจะซับซ้อน หากไม่มั่นใจ หรือต้องการหาที่ปรึกษา Convert Digital สามารถเป็นตัวช่วยให้คุณได้ เราพร้อมที่จะทำให้การทำ SEO กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับคุณ ด้วยประสบการณ์โดยตรงที่การันตีความพึงพอใจจากลูกค้าของเรา