ยินดีต้อนรับสู่การยุคการตลาด 5.0 ที่เทคนิคในการทำการตลาดนั้นได้เปลี่ยนไปตลอดกาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์ไปแบบกว้าง ๆ ให้คนรู้จักแบรนด์ให้มากที่สุด ได้ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นการทำการตลาดแบบรายบุคคล ที่จะส่งสินค้าและบริการที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าไปหาพวกเขาแบบเฉพาะเจาะจงเลยทีเดียว ทำให้มีข้อเสนอพิเศษและการปรับเปลี่ยนโปรโมชันตามเงื่อนไขต่าง ๆ ได้แบบ Real-time เพื่อดึงกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายให้ตัดสินใจจับจ่ายซื้อผลิตภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด แต่ก่อนที่จะก้าวไปถึงจุด ๆ นั้นได้ คุณต้องผ่านแบบทดสอบด่านแรก นั่นก็คือ ทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของคุณให้ได้ก่อน ดังนั้นกระบวนการในการทำให้สินค้าของคุณได้มีโอกาสผ่านสายตาคนที่น่าจะกลายเป็นลูกค้าของคุณในอนาคตได้นั้น จึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการทำธุรกิจ ซึ่งในวันนี้ เราจะพาคุณมาเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือการทำการตลาดผ่าน Search Engine ด้วย SEO และ SEM และแสดงให้คุณเห็นว่า SEO และ SEM ต่างกันอย่างไร แล้วกลยุทธ์ไหน ที่เหมาะจะนำมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณ
ทำความรู้จักกับการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine
วิธีการทำการตลาดออนไลน์นั้นมีหลายแบบ ไม่ว่าจะทำเป็นแบบ e-Newsletter หรือการส่งข่าวสารผ่าน e-mail จากนั้นเริ่มพัฒนาขึ้นมาสู่การทำการตลาดผ่านพื้นที่ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ บล็อก รวมไปถึงพลังแห่งการบอกต่อบนโซเชียลมีเดีย แต่ในวันนี้ เราจะมาพูดถึงการทำการตลาดออนไลน์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นอีกระดับ เพราะมีข้อมูลและสถิติที่ใช้อ้างอิง จนสามารถวัดความคุ้มค่าของเงินที่เราใส่ลงไปเพื่อลงทุนทำการตลาดได้อย่าง การทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine ทั้ง SEO และ SEM
ทำความรู้จักกับ SEO
SEO ย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimization เป็นการทำการตลาดที่ยั่งยืน แต่ต้องใช้เวลานาน 6-12 เดือนถึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยการทำการตลาดแบบ SEO เป็นการตลาดที่ต้องทำงานหนัก เนื่องจากต้องลงบทความที่น่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง ทั้งในเว็บไซต์หลัก และต้องพึ่งพาอาศัยการให้เครดิตจากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ ในการยิงลิงก์อ้างอิงกลับมาที่เว็บไซต์ที่คุณจะทำ SEO เพื่อเพิ่มคะแนนเครดิตจากหน่วยประมวลผลของทาง Search Engine ให้มากพอ จนกระทั่งเว็บไซต์ของคุณจะได้เลื่อนลำดับมาติดผลการค้นหาในหน้าแรก ๆ ได้
ทำความรู้จักกับ SEM
SEM หรือ Search Engine Marketing นั้นก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ แต่ถ้าใช้เทคนิค SEM นั้น ต้องแลกมาด้วยเงินก้อนในการลงโฆษณา แต่มีข้อดีคือเว็บไซต์ของคุณจะได้รับการแสดงผลการค้นหาในหน้าแรกสุดทันที แถมยังอยู่บนทำเลที่ดีที่สุด คืออยู่ด้านบนสุดในหน้าต่างแสดงผลเลยทีเดียว แต่การทำ SEM นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก หากคุณมีคู่แข่งคนอื่นที่มาประมูลแย่งคีย์เวิร์ดเดียวกันกับคุณ
SEO และ SEM ต่างกันอย่างไร
SEO กับ SEM นั้นอาจจะดูคล้าย ๆ กัน เพราะต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นการทำการตลาดผ่าน Search Engine ด้วยกันทั้งนั้น แต่จริง ๆ แล้วมันมีรายละเอียดปลีกย่อยหลายอย่างที่ทำให้ยุทธวิธีการทำการตลาดทั้งสองนี้ต่างกัน ลองมาดูกันดีกว่า ว่า SEO และ SEM ต่างกันอย่างไรบ้าง
เวลา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SEO และ SEM แตกต่างกัน
การทำ SEO นั้นเป็นการสร้างความเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ โดยเวลาจะลงข้อมูลใหม่ ๆ อัปเดตลงไป ไม่ควรลงเยอะ ๆ ในเวลาเดียวกัน แต่ควรจะค่อย ๆ ลงทีละนิดทีละหน่อย อย่างบทความ SEO ควรจะลงวันละ 1 บทความอย่างต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลา 3-6 เดือน ต่างจาก SEM ที่สามารถลงข้อมูลทุกอย่างให้ครบเตรียมพร้อมรับลูกค้า จากนั้นซื้อโฆษณาแบบ SEM แล้วรอรับออเดอร์ได้เลยทันที
งบประมาณที่ต้องใช้ อีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้ SEO และ SEM แตกต่างกัน
การทำ SEO นั้นคล้ายกับการปลูกต้นไม้ ที่มีต้นทุนที่ต่ำมาก ๆ แต่ต้องอาศัยความอดทนและความสม่ำเสมอในการรดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน ป้องกันศัตรูพืช จนกว่าที่จะต้นไม้จะโตพอที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และก็จะสามารถทานผลไม้ได้ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี แต่ SEM เป็นเหมือนกับการใช้เงินในการแก้ปัญหา ถ้าคุณอยากกินทุเรียน ก็เดินไปซื้อที่ห้างสรรพสินค้าได้เลย ในซุปเปอร์มาร์เก็ตมีแบบแกะเปลือกไว้พร้อมขายอยู่แล้ว เพียงแค่คุณจ่ายเงินเต็มจำนวน ก็สามารถทานผลไม้ที่คุณโปรดปรานได้ทันที แต่พอกินหมด คุณก็จะไม่มีทุเรียนกินอีก จนกว่าคุณจะนำเงินก้อนไปซื้อมันใหม่อีกรอบ
ระหว่างการทำการตลาดออนไลน์แบบ SEO กับ SEM แบบไหนที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณ
หากคุณดำเนินธุรกิจมานานกว่า 1 ปี และมีคนรู้จักสินค้าและผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่พอสมควร คุณสามารถเริ่มต้นที่ SEO ได้เลย เพราะคุณมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว และมีความน่าเชื่อถือมากพอที่จะสร้างเครดิตให้กับแบรนด์ จนสามารถขยายฐานแฟนคลับออกไปได้อย่างสบาย ๆ แต่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม หากว่าเว็บไซต์ของคุณเพิ่งเปิดตัวมาใหม่ ๆ แบบนี้เราแนะนำให้ทำ SEO ควบคู่ไปกับ SEM เพราะ SEO จะเป็นเหมือนรากแก้ว ที่ทำให้ธุรกิจของคุณมีฐานรากที่มั่นคงแข็งแรง ส่วน SEM เหมือนรากแขนงที่แตกสาขาออกไปช่วยดูดซึมสารอาหารและแร่ธาตุต่าง ๆ มาเติมพลังให้ต้นกล้าธุรกิจ ซึ่งทาง Digital Convert ยินดีที่จะเป็นปุ๋ยสูตรพิเศษ ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งทางการตลาดให้บริษัทของคุณโตวันโตคืน
ตัวอย่างการทำการตลาดแบบ SEO ของ Convert Digital จากเคสธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องครัว
หลังจากที่ทาง Convert Digital ลงบทความ SEO จำนวน 3 บทความต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 เดือน ด้วยคีย์เวิร์ด หม้อทอดไร้น้ำมัน รีวิวหม้อทอดไร้น้ำมัน หม้อทอดพลังไอน้ำ และหม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อไหนดี นี่คือผลลัพธ์ที่ได้
- เกิด Organic Traffic จากการค้นหาผ่าน Google เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากถึง 97.45% ใน 3 เดือน
- อัตรา Conversion จาก SEO แต่เพียงอย่างเดียวเพิ่มขึ้นถึง 249.58%
ตัวอย่างการทำการตลาดแบบ SEM ของ Convert Digital จากเคสธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องครัว
หลังจากที่ทาง Convert Digital สร้างโฆษณา 14 แบบ และคุณสมบัติพิเศษในการปรับแต่งโฆษณาอีก 33 extensions แล้วยิงออกไปโฆษณาออกไปผ่าน Google Ads หรือ Googled Adwords ออกไป นี่คือผลลัพธ์ที่ได้
- การแสดงผลเพิ่มขึ้น 91%
- จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เพิ่ม 172%
- เพิ่มยอดขายได้กว่า 237%
สามารถดูผลงานของ Convert Digital เพิ่มเติมได้ที่ www.convertdigital.co.th/th/bangkok-digital-marketing-agency-project/
จะเห็นได้ว่าการทำการตลาดออนไลน์นั้นเป็นพลังสำคัญในการทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในเวลาที่สั้นและกระชับกว่าการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง หากคุณต้องการค้นหาว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับการทำการตลาดออนไลน์บน Search Engine ในรูปแบบไหนดี ทาง Convert Digital เองก็พร้อมที่จะช่วยให้คำปรึกษาคุณด้วยความยินดี